8/26/17

(SK) THE FOX AND I (Special EP.)






THE FOX AND I
九尾の妖狐。

OHSEHUN l KIMJONGIN
- OHARHA -


CUT SCENE
( SPECIAL )
ใต้ละอองหิมะของปีที่สิบแปด




 ผมอยากทำกับคุณครับมือขาวซีดวางลงตรงเป้ากางเกงวอร์ม ออกแรงบีบเบาๆ ให้จงอินสั่นสะท้านไปทั้งร่าง พอรีบเลื่อนมือไปหยุดมันไว้อีก เซฮุนก็เฉไฉทำเป็นกดริมฝีปากจูบเล้าโลมอย่างน่าหมั่นไส้ ปิดทุกช่องทางที่จะทำให้จงอินกล่าวคำปฏิเสธออกมาได้


ไม่เอาโว้ย คืนแรกของการอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์เริ่มต้นด้วยการผลักไสอีกฝ่ายออก เมื่อมือสีแทนยกขึ้นบังไว้ระดับใบหน้า เจ้าของกลีบปากได้รูปจึงจับมันจูบไล่ทีละปลายนิ้ว ก่อนจะฝังหน้าลงงับลาดไหล่ภายใต้เสื้อแขนยาวแล้วเลื่อนไปจูบย้ำคลอเคลียอยู่แถวซอกคอ เฮ้ ฉันบอกว่าไม่ไง


จงอินไม่ซื่อบื้อจนคิดจะถามอีกว่าอะไรเป็นอะไร เขาดึงชายเสื้อตนเองเอาไว้ในยามที่เซฮุนดื้อดึงจะถอดมันออก ยูกาตะสีน้ำเงินของจิ้งจอกหนุ่มแหวกขึ้นจนเห็นต้นขาแกร่งยามที่เจ้าตัวขยับคร่อม เท้าสองแขนบนฟูกนอนและใช้ทั้งตัวบดบังแสงจันทร์เหนือร่างของคิมจงอิน ปากกระตุกยิ้มคล้ายว่านี่เป็นเกมให้เอาชนะอย่างไรอย่างนั้น


โอเซฮุนจูบเขาต่ออย่างหนักหน่วงและยาวนานจนริมฝีปากบวมเจ่อ ทั้งกัด ทั้งเม้ม ในขณะที่มือก็สาละวนบีบทั้งช่วงกึ่งกลางลำตัวและแทรกจับหนั่นเนื้อสะโพกอย่างมันเขี้ยว ใช่ เซฮุนไม่พยายามที่จะถอดเสื้อผ้าของเขาอีกแม้แต่ชิ้นเดียว แต่กลับเลื่อนริมฝีปากจูบแรงๆ ไปเรื่อยถึงช่วงล่วง อ้าปากงับส่วนนั้นผ่านเนื้อผ้าวอร์มราวกับมันเขี้ยวหนักหนา แล้วยังขบจูบสลับกับใช้ลิ้น ทำเหมือนเขาเป็นตั๊กตายัดนุ่นที่จะจับฟัดอย่างไรก็ได้


ไม่นานนัก คิมจงอินก็หลุดเสียงครางเครือในลำคอให้พอได้ยิน อะ...!”


เจ้าจิ้งจอกกำลังเล่นกับความรู้สึกเขาโดยการสบตากันทั้งที่ทำเรื่องน่าอาย พอเขาแหงนหน้าหนี ปากและมือก็ทำหน้าที่เรียกร้องความสนใจด้วยการบีบเค้นสะโพกและงับเล่นตรงนั้นแรงๆ จนชายหนุ่มต้องขดสองขาขึ้นเพราะอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน ความเป็นผู้ชายของเขาก็แค่ตอบสนองทุกอย่างไปตามหน้าที่ ที่ผิดคงเป็นเก้าหางกับความต้องการงี่เง่าเหล่านั้นต่างหาก


 อยากให้ผมช่วยหรือเปล่า? จงอินขมวดคิ้วทั้งใบหน้าแดงก่ำ สรรพางค์ร้อนรุ่มจนเผลอคิดไปว่าชุดนอนหนาๆ พวกนี้มันน่าโดนถอดออกเต็มที ยิ่งเมื่อเสียงทุ้มขยับขึ้นมากระซิบข้างใบหู แกล้งส่งปลายลิ้นเข้ามาหยอกล้อและกัดย้ำเบาๆ ให้รู้สึกเสียวซ่าน ตัวคุณร้อนอย่างกับไฟแล้วนะครับ


ไม่มีทาง จงอินต้องตอบอย่างนั้นแน่ ถ้าไม่เพียงแต่เซฮุนจะคว้ามือเขาแทรกเข้าไปในรอยแหวกของยูกาตะที่สวมอยู่ บังคับให้จับแท่งร้อนเอาไว้ในขณะที่ตนเองก็สอดมือล้วงผ่านขอบกางเกงวอร์ม ก่อนจะกอบกุมส่วนสำคัญของคิมจงอินแล้วเริ่มขยับรูดเป็นการนำร่อง


นาย... หนุ่มผิวแทนหน้าแดงยิ่งกว่าเก่า ยิ่งได้รู้ว่าสิ่งนั้นของจิ้งจอกเก้าหางกำลังขยายใหญ่สู้มือเขาแค่ไหน จงอินก็ยิ่งทำตัวไม่ถูก เขาขลาดอายเกินกว่าจะกล้าทำอย่างที่เซฮุนทำ ให้ถูกตราหน้าว่าขลาดไม่เข้าเรื่องอย่างไรก็ช่าง แต่หากยอมตอบรับการกระทำนี้ก็เท่ากับเต็มใจให้เหตุการณ์ในบ้านของปีศาจจิ้งจอกเกิดขึ้นอีกครั้ง แล้วแบบนั้นคิมจงอินจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนอีก


อย่าทำเป็นไม่เข้าใจสิครับเซฮุนเอ่ยเรียกเสียงกระเส่า มือก็รูดรั้งแกนกายของจงอินตั้งแต่โคนจนสุดปลาย คุณก็ดูหนังโป๊กับแบคฮยอนออกบ่อยไม่ใช่หรือ”


... จงอินกัดริมฝีปาก ทั้งร่างสั่นเทาราวกับคนที่สับสนจนไม่รู้จะทำอย่างไร


คิมจงอิน


ตาสีฟ้าจ้องมองเขาอย่างเว้าวอน เซฮุนพรมจูบลงบนปลายคาง มุมปาก หอมฟอดที่แก้มทั้งสองข้างแล้วจึงประทับจูบบนกลีบปากอิ่ม ก่อนจะรุกไล่ปลายลิ้นด้วยจังหวะอันคุ้นเคยเป็นครั้งที่เท่าไรก็ไม่ได้นับ




ความรักของปีศาจคือนิรันดร์

เพราะอย่างนั้น มันถึงเป็นของหายากสุดๆ เลยรู้ไหม

ให้นะครับ




ราวกับคำหวานเมื่อตอนกลางวันคอยหาโอกาสกัดเซาะใจดวงน้อยๆ ของจงอินจนอ่อนยวบ เขาไม่กล้าทำ สาบานได้เลย ถึงอย่างนั้นการถูกจูบซ้ำๆ ได้ยินเสียงลมหายใจอุ่นรินรดและช่วงล่างที่ถูกช่วยปรนเปรอไม่หยุดก็ทำให้เขาฝืนทำใจแข็งได้ลำบาก ความสัมพันธ์ระหว่างจิ้งจอกเก้าหางคืออะไรนั้นจงอินไม่รู้ ทั้งยังเป็นสิ่งที่ไม่อาจจำกัดความได้จนทำให้เกิดความลังเลในทุกอย่าง ตั้งแต่สี่ร้อยปีก่อนจนถึงตอนนี้ จะคิมไคหรือคิมจงอินก็ไม่ต่างกันเลยสักนิดเดียว


“อา...” เซฮุนครางเสียงต่ำในลำคอเมื่อมือสีแทนเริ่มขยับเคลื่อนภายใต้ชุดยูกาตะในที่สุด “จงอิน...”


“หุบปาก” คนข้างใต้หลุบตาหนีอีกฝ่าย เสียงหอบหายใจดังประสานกันถี่รัวท่ามกลางความมืดและอากาศหนาวทางด้านนอก จงอินเองก็เป็นผู้ชาย มีหรือเขาจะไม่รู้ว่าต้องขยับมือแบบไหนแล้วจะช่วยให้รู้สึกดี ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าต้องมาทำเช่นนี้ให้ชายใด


บางที โอเซฮุนคงครอบครองตำแหน่งความเปลี่ยนแปลงที่แสนพิเศษในชีวิตของคิมจงอินเข้าแล้วจริงๆ ก็เป็นได้


ยังไม่ทันจะเสร็จดี เซฮุนก็หยุดทุกอย่างรวมถึงคว้ามือเขาให้ออกจากร่างกายของตนด้วย จิ้งจอกหนุ่มแลกลิ้นกับร่างข้างใต้ขณะดึงรั้งกางเกงวอร์มจงอินลงไปถึงหน้าขา จากนั้นจึงผละออกมาเพื่อจัดการถอดอาภรณ์ช่วงล่างจนหลุดออกจากปลายเท้า สองมือแหวกขาคนดื้อออก ก่อนจะก้มใบหน้าลงไปเพื่อเริ่มสิ่งที่คิดจะทำ เสียงทุ้มนุ่มก็พูดเตือนราวกระซิบ


“ผนังแบบนี้ไม่ค่อยเก็บเสียง เราคงต้องระวังไม่ให้ลู่หานที่นอนอยู่ห้องข้างๆ ได้ยินสินะครับ”


“เงียบน่า”

จงอินใช้หลังมือปิดใบหน้าเอาไว้อย่างยอมแพ้ เห็นอย่างนั้นเซฮุนก็ยิ่งอยากแกล้ง ก้มลงใช้ปากกับส่วนกลางลำตัวเหมือนเมื่อครั้งนั้นไม่มีผิด รู้ดีว่าใช้ลิ้นแบบไหนแล้วจะทำให้คนผิวแทนคลั่งเจียนตาย ร่างของจงอินเริ่มบิดเร่า พยายามหนีบขาเข้าหากันอย่างลืมตัว แต่ยิ่งทำอย่างนั้น โพรงปากอุ่นก็ยังขยับรูดเร็วยิ่งขึ้น จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ผงกศีรษะขึ้นลง ทั้งดูด ทั้งเลียเสียจนคนถูกปรนเปรอควบคุมตัวเองไม่ได้


“อะ” จงอินพยายามเงียบเสียงแล้ว แต่ในนาทีที่ฟันคมนั้นขยับครูดไปมา เขาก็แทบอยากร้องให้หยุดการกระทำเหล่านี้เสียก่อนที่จะทนไม่ไหว


ทว่าถึงพูดไปเซฮุนก็คงไม่ยอมหยุด ท่อนขาถูกยกขึ้นพาดบ่าแกร่งเอาไว้ สะโพกลอยจากฟูกนอน ร่างของเขาถูกดึงเข้าหาจนศีรษะตกจากหมอน สะดุ้งวาบทันทีที่รู้สึกได้ถึงเรียวลิ้นฉ่ำแฉะซึ่งสัมผัสลงตรงช่องทางด้านหลัง มันดุนดันและไล้วนอยู่โดยรอบ ร่างของคิมจงอินกระตุกไม่เป็นจังหวะ ขาสองข้างอยากหนีบเข้าหากันเต็มทีแต่ก็ทำไม่ได้


“อย่าทำอย่างนั้น...” จงอินได้แต่ปฏิเสธด้วยความขลาดอาย มือเอื้อมไปดันศีรษะของคนที่โก่งโค้งอยู่ระหว่างขาของเขา แต่ลิ้นร้อนกลับแทงเข้าในตัว ตวัดเลียให้ทั้งร่างของชายหนุ่มสั่นสะท้าน หลังมือที่คอยยกปิดใบหน้าพลันเลื่อนลงมาตรงริมฝีปาก จงอินจำต้องงับมือตนเองเอาไว้เพราะกลัวจะหลุดเสียงออกไปอย่างที่ทั้งคู่รู้ดี ถ้าห้องข้างๆ เป็นแบคฮยอนกับจุนมยอนที่เมาอ้อแอ้คงจะดีกว่านี้ แต่โชคร้ายที่นอกจากจงแดแล้วอีกคนยังเป็นลู่หาน ทายาทของศาลเจ้าฝั่งตะวันตกซึ่งพร้อมจะรับรู้สิ่งผิดปกติได้ทันทีหากมีเสียงใดลอยไปเข้าหู


เซฮุนยืดตัวขึ้น ทำสิ่งน่าตกใจยิ่งกว่าอย่างการจูบเข้าที่เท้าแล้วไล่มาจนถึงท่อนขา


“ดูคุณในตอนนี้สิครับ”


จิ้งจอกหนุ่มจับขาของเขาลงวางกับที่นอน ก่อนจะใช้วงแขนช้อนแผ่นหลังยกขึ้นให้อยู่ในท่าคุกเข่าคร่อมตัก จากนั้นจึงจูบซ้ำที่หัวไหล่และต้นคอ ส่วนมือที่ประคองหลังค่อยๆ เลื่อนลงต่ำจนรออยู่ใต้สะโพก


“น่ารักจัง”


จงอินโกรธที่ถูกชมอย่างนั้น แต่ก็รู้สึกอย่างอื่นมากกว่าเมื่อนิ้วเรียวยาวค่อยๆ ขยับแทรกเข้ามาในตัว ขยับหาจุดเหมาะสมคล้ายอยากกลั่นแกล้งให้เขาละเมิดคำเตือนเรื่องเสียงเสียให้ได้ เซฮุนพยายามดันนิ้วเข้ามามากขึ้น จนแน่ใจว่าคงสู้กับแรงบีบรัดไม่ไหวถึงได้ยอมถอนออกขณะขโมยหอมแก้มเขาไปอีกฟอดใหญ่


“ไม่ค่อยถนัดเลย” เจ้าของผิวขาวซีดจัดการปลดโอบิแล้วถอดยูกาตะออกจากตัว โอเซฮุนอยู่ในร่างที่แทบจะเปลือยเปล่า มีเพียงอาภรณ์ซึ่งยังกองปิดช่วงล่างเอาไว้เท่านั้นที่ช่วยคลายความประดักประเดิดระหว่างทั้งคู่ได้เพียงเล็กน้อย เก้าหางถ่มน้ำลายใส่มือของตนเองแล้วจึงวนไปทางด้านหลังอีกรอบ “ขอโทษที่ต้องพูดอย่างนี้อีกนะครับ แต่ช่วยอดทนหน่อยนะ”


“อึก...” เซฮุนพยายามดันนิ้วเข้ามาอีกรอบ ถึงจะลึกกว่าเดิมนิดหน่อยแต่ก็ยังเข้าไปไม่ได้ทั้งหมด


“ถอดเสื้อหน่อยครับ”


จงอินขมวดคิ้วไม่เต็มใจ อย่างน้อยเขาก็อยากมีเสื้อผ้าสักชิ้นติดร่างกายเอาไว้บ้าง อีกอย่างตอนกลางคืนแบบนี้มันหนาวอย่างกับอะไรดี ถ้าพรุ่งนี้ตื่นมานอนซมล่ะก็ อะไรๆ คงไม่ดีแน่


“มือผมมันไม่ว่างนี่นา” เจ้าจิ้งจอกออดอ้อน แกล้งกระทุ้งปลายนิ้วแล้วใช้อีกมือบีบแก้มก้นแรงๆ เป็นการยืนยันคำอ้าง “เร็วสิครับ ผมจะช่วยให้เจ็บน้อยลงไง”


“ไม่ต้องทำก็จบเรื่องแล้ว”


คนถูกปฏิเสธถอนหายใจอย่างเหลืออด ยอมละมือที่จับแหวกอยู่กับหนั่นเนื้อทางด้านหลังมาเลิกเสื้อแขนยาวของเขาขึ้น “พูดจาได้ตรงกันข้ามกับความจริงจังเลยนะครับ”


แล้วริมฝีปากได้รูปก็งับเข้าที่ตุ่มสีชมพูตรงยอดอก ขยับปลายลิ้นรัวหยอกเย้ากับคนเก่งแต่ปากจนได้แต่ครางฮึกในลำคอ ช่องทางด้านหลังยอมเปิดให้นิ้วแทรกตัวเข้าไปได้อีกหน่อยแล้ว เซฮุนใช้มือเดียวออกแรงดึงเสื้อขึ้นทว่าติดที่ศีรษะ ท้ายแล้วจงอินก็จำใจต้องยอมช่วยถอดมันออก เหลือเพียงร่างเปลือยเปล่าท่ามกลางอุณหภูมิต่ำภายในห้อง และสิ่งที่คล้ายกับอ้อมกอดเป็นไออุ่นเพียงหนึ่งเดียว


จงอินไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่นิ้วของโอเซฮุนขยับสวนอยู่ทางด้านหลังของเขาได้จนสุด ในขณะที่ปากของจิ้งจอกก็ยังสาละวนอยู่กับช่วงอก ทั้งขบทั้งเม้มให้ชายหนุ่มรู้สึกดีจนแทบบ้า ช่วงเวลาแห่งความสุขชะงักไปนิดหน่อยเพราะความเจ็บปวดหลังเซฮุนพยายามแทรกนิ้วที่สองตามเข้ามา แต่ไม่นานนัก คิมจงอินก็ทำได้แค่บิดสีหน้าเหยเกแล้วซบหน้าลงกับไหล่กว้าง ผ่อนลมหายใจแรงๆ เข้าออกเพราะเสียวซ่านจนแทบทนไม่ไหว


“ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า” ชายผมสีเงินกระซิบถาม ส่วนจงอินเลือกโกหกด้วยการส่ายหน้าแล้วค่อยพูดความจริง


“นิดหน่อย”


เซฮุนเงียบและไม่ได้พูดอะไรต่อ หากแต่ผ่อนแรงขยับนิ้วจนช้าลงเรื่อยๆ ลมหายใจของจิ้งจอกติดขัด น่าแปลกใจที่หมอนี่ยังทำอะไรเนิบนาบทั้งที่น่าจะกระสันเต็มที่แล้วแท้ๆ เซฮุนดูเหมือนหมดแรงอดทนอดกลั้นตั้งแต่ที่เขายอมใช้มือให้ ถึงอย่างนั้นก็ยังยอมเสียเวลาทำอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายเพียงเพราะจงอินแสดงออกชัดเจนว่าหวาดกลัวการถูกกระทำมากเพียงไร


เขาสูดลมหายใจลึก พูดโดยที่ยังกดใบหน้าอยู่กับไหล่กว้างอย่างขลาดอาย “ใส่เข้ามา”


“อะไรนะครับ...”


ทายาทแห่งศาลเจ้าตะวันออกผงกศีรษะขึ้นทั้งหน้าแดงก่ำ “ฉันบอกว่าจะทำอะไรก็ทำ”


เซฮุนทำตาโต คล้ายไม่เชื่อหูว่าคนปากแข็งอย่างหัวโจกของปีสามห้องอีจะกล้าพูดอะไรแบบนี้ได้ในที่สุด กระนั้นริมฝีปากก็คลี่รอยยิ้มพึงพอใจ ดึงยูกาตะที่ยังถอดไม่พ้นตัวดีออกไปจนไม่มีอะไรเหลือติดบนเรือนร่าง ปรากฏให้เห็นแกนกายใหญ่ร้อนชี้ขึ้น จากสภาพของมันแล้วโอเซฮุนคงแทบทนไม่ไหวจริงอย่างที่คิดไว้เลย


“ผมก็แค่เกิดลังเลขึ้นมาน่ะครับ ว่าถ้าคุณเจ็บจนรังเกียจผมอีกจะทำยังไง”


จงอินจามเบาๆ เพราะอากาศ ปลายจมูกแดงก่ำจากการถูแรงๆ จนดูคล้ายตัวการ์ตูนไม่มีผิด “คิดอย่างนี้บ้างก็ดี”


“ใจร้ายจังนะครับ” คนถูกตำหนิหัวเราะเบาๆ เป็นการรับผิด


“ตอนนั้นมันเจ็บสุดๆ ไปเลยนี่หว่า ครั้งนี้เองก็น่าจะเหมือนกัน เพราะอย่างนั้นฉันถึงได้ไม่อยากทำ” จงอินสารภาพตามจริง ทิ้งช่วงให้ความเงียบโรยตัวลงมาจนน่าอึดอัด ก่อนจะใช้มือปิดสองตาของโอเซฮุนเอาไว้แล้วเลื่อนริมฝีปากเข้าหา


แค่ครั้งนี้... มันจะเกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว เขาแน่ใจ


“แต่มันไม่ทำให้ฉันรังเกียจนายหรอก”


เป็นครั้งแรกที่จงอินจูบเขา และมันทำให้จิ้งจอกหนุ่มสิ้นสุดความอดทนได้ดีกว่าครั้งไหนๆ เลยทีเดียว แผ่นหลังสีแทนถูกดันลงราบกับฟูกนอนแทบจะทันที โอเซฮุนจับสะโพกมนยกขึ้นแล้วจับแท่งเนื้อร้อนฉ่าเข้าจ่อ จงอินมักจะเป็นแบบนี้อยู่เสมอ -- เป็นอะไรก็ตามที่ทำให้เขาเกือบคลั่งจนแทบบ้า อยากกลั่นแกล้ง รังแก ทำสิ่งที่อีกฝ่ายทนไม่ไหวจนกลีบปากอิ่มนั่นต้องเผยอร้องโอดโอยอย่างหมดท่า ตอบสนองนิสัยเสียๆ ของจิ้งจอกเก้าหางอย่างที่คงไม่มีใครในโลกนี้เทียบเท่าได้อีก


เซฮุนดันตัวสู้ความคับแน่นจนสุดโคน จงอินรัดเขาแน่นเหมือนกับครั้งนั้นไม่มีผิด ยิ่งกอปรกับแรงผลักตรงหัวไหล่และใบหน้าแดงก่ำที่กำลังบิดเบี้ยวอย่างสุดกลั้นก็ยิ่งทำให้เขาแทบอดใจไม่อยู่ อยากรีบขยับกายสอดใส่เข้าออกแรงๆ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น ช่วงเวลาที่ควรจะเป็นความสุขสมระหว่างทั้งสองคงได้กลายเป็นฝันร้ายของจงอินเข้าจริงๆ แน่


“อา... มันเจ็บ... แน่นไปหมด...”


เสียงครางครือนั่นราวกับเร่งเร้าให้เขาลงมือทำอย่างที่คิด เซฮุนเคลื่อนตัวออกและดันเข้าไปอีกครั้งอย่างเชื่องช้า จงอินใช้หลังมือปิดหน้าเอาไว้เช่นเดียวกับเมื่อครู่นี้ ฟันขาวกัดเม้มริมฝีปากเอาไว้จนน่ากลัวจะช้ำยิ่งกว่าเก่า มือขาวซีดจึงช่วยกอบกุมแก่นกายอีกฝ่ายแล้วรูดขึ้นลงตามไปด้วย ได้ผลว่ามันทำให้เขาขยับตัวได้คล่องขึ้นในเวลาไม่นาน


ร่างของคิมจงอินขยับไปบนที่นอนตามจังหวะสอดใส่ เมื่อลองปรือตาขึ้นมองข้างหนึ่ง ใบหน้าหล่อเหลาชุ่มเหงื่อก็ทำให้เขาใจสั่นจนต้องรีบหลับตาลงอีกครั้ง โอเซฮุนดูมีความสุขมากเหลือเกิน มากเสียจนการสับสนในความสัมพันธ์ของทั้งคู่กลายเป็นสิ่งไร้ค่าไปชั่วขณะ หรือบางทีก็อาจมีเพียงเขาฝ่ายเดียวที่เอาแต่ครุ่นคิดเรื่องพวกนี้ก็เป็นได้


ยิ่งหลังจากได้คำบอกรักมานั้น จงอินก็ยิ่งรู้สึกวางตัวไม่ถูก เขาแสร้งทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่ได้ แต่จะให้ยอมอ้าแขนรับความเปลี่ยนแปลงเข้ามา มันก็เป็นนามธรรมที่ไม่รู้ว่าจะนึกภาพเอาไว้อย่างไรดี


อยากขอโทษคิมไคชะมัด... ความรักที่แสนสวยงามในครั้งนั้นกลายเป็นแบบนี้ไปเสียแล้ว


“อะ...! จงอินเผลอร้องเสียงดัง


“เจ็บหรือครับ?” จิ้งจอกหนุ่มขยับสะโพกช้าลง คลึงนิ้วหัวแม่มือกับริมฝีปากที่กำลังหอบกระเส่า เซฮุนชอบเวลาจงอินทนไม่ไหว แต่มันคงจะแย่แน่ถ้าต้องถูกถามในตอนเช้าว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน ห้องนี้ถึงได้ไม่สงบเอาเสียเลย


เขาประคองร่างจงอินขึ้นมานั่งคร่อมตักเพื่อเป็นทางออกสำหรับเวลาที่เหลือ ตัวก็ขยับสวนร่างข้างบนแล้วอุดปากเอาไว้ด้วยรสจูบวาบหวาม ลิ้นร้อนต่างไล้แลกกันไม่หยุด ยิ่งกลับมาขยับเร็วละแรงขึ้น การจูบก็ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องลำบากจนทำได้แค่หอบหายใจแล้วปล่อยให้ริมฝีปากแตะผ่านกันเท่านั้น ร่างสีแทนโยกไหวแล้วหลุดเสียงพร่าออกมาเป็นพักๆ เซฮุนกระแทกกระทั้นตัวเข้าใส่ มือก็จับบังคับสะโพกมนให้กดมิดลงมา


จงอินตวัดแขนโอบรอบคอแล้วโถมหน้าลงฝังกับไหล่กว้างเหมือนอย่างท่าเตรียมความพร้อมก่อนหน้า พยายามหาทางสะกดอารมณ์ตนเองเอาไว้ด้วยการกัดเข้าที่บ่าของเขาจนเป็นรอยเขี้ยว เซฮุนยอมรับว่ามันเจ็บนิดหน่อย แต่ถ้าแลกกับการที่ได้รู้ว่าจงอินรู้สึกดีขนาดไหนในตอนนี้แล้วล่ะก็ ให้เจ็บขนาดถูกโอคามิแทงทะลุตัวอีกครั้งเขาก็ยอม


กลิ่นหอมดอกไม้ป่าเช่นครั้งแรกที่ได้เจอกันอัดเต็มจมูกคิมจงอินจนอดนึกถึงวันเก่าๆ ไม่ได้ ไม่มีอะไรที่อยู่ในความคาดหมายเลยสักอย่าง ตั้งแต่เรื่องพลังมหาศาลที่เขาถือครองเอาไว้จวบจนพันธะทางความรู้สึกกับปีศาจร้ายในตำนานอย่างคิวบิโนะโยโกะ บางทีปู่หรือเพื่อนคนอื่นๆ อาจระแคะระคายความสัมพันธ์ของเขาและเซฮุนอยู่บ้าง แต่ถึงอย่างนั้นถ้าไม่มีใครพูดประกอบกับทำตัวเป็นปกติอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ก็คงไม่เป็นไร


เขาละมือหนึ่งลงไปจัดการของตัวเองบ้าง ขืนเสร็จทั้งที่ถูกกระแทกใส่อย่างเดียวคงน่าอายแย่ แต่แค่ไม่กี่ครั้ง น้ำขาวขุ่นก็แตกทะลักเต็มมือเสียแล้ว อาจเป็นเพราะช่วงสองเดือนมานี้เขาไม่ได้ช่วยตัวเองบ่อยครั้งเท่าไร และการได้ทำเรื่องอย่างว่ากับเซฮุนมันก็ดีมากเหลือเกิน ดีจนจงอินกลัวว่าถ้าต่อไปเขาไม่รักษาท่าทีให้มากขึ้น เจ้าจิ้งจอกนี่ก็คงจะได้ใจและหาเรื่องรังแกกันไม่เว้นแต่ละวันแน่


เซฮุนปล่อยใส่ตัวเขาไปแล้วหนึ่งครั้ง แต่แทนที่จะหยุดกลับจับร่างของจงอินนอนพลิกคว่ำบนฟูก โก่งโค้งสะโพกขึ้นแล้วดันแกนกายสอดใส่เข้ามาเป็นรอบที่สอง คนถูกกระทำเป็นฝ่ายหอบกระเส่า ซบหน้าลงกับหมอนอย่างหมดเรี่ยวแรง เกร็งตัวจนปวดเพราะความเสียวซ่านและจังหวะที่แสนเอาอกเอาใจ


ริมฝีปากบางโน้มจูบลาดไหล่สั่นระริก ฟอนเฟ้นซอกคอและพวงแก้มที่เต็มไปด้วยเหงื่ออย่างใครรัก แล้วจึงพรมจูบลงบนแผ่นหลัง เนินกระดูกสะบัก พลางกระทั้นความเป็นชายเข้ามาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะลดละ จิ้งจอกหนุ่มขบกรามเสียงพร่า ใช้มือจับแหวกเนื้อหนั่นออก ซอยสะโพกถี่จนทั้งคู่เสร็จครั้งต่อมาในเวลาไม่นาน


เซฮุนเอนกายลงไปนอนข้างๆ ทั้งที่ยังไม่ถอนตัวออก รั้งร่างของคิมจงอินเข้ามากอดซ้อนหลังเอาไว้แนบแน่นแล้วซุกไซ้ใบหน้าหอมฟอดให้ทั่วทั้งลาดไหล่และลำคอ มิหนำซ้ำยังขยับอย่างเชื่องช้าราวกับแสดงความเอาแต่ใจว่าไม่อยากให้ค่ำคืนนี้จบลงง่ายๆ ให้ตาย จงอินสบถ น้ำสีขาวขุ่นข้นคลั่กทะลักเลอะฟูกนอนทุกครั้งที่เซฮุนเคลื่อนตัวออก


พอแล้ว...” เขาสั่ง แต่เจ้าจิ้งจอกนิสัยกลับแค่รับฟังแต่ไม่ยอมทำตาม ซ้ำยังต่อต้านด้วยการเริ่มขยับตัวแรงขึ้นจนสิ่งที่อ่อนลงเริ่มจะแข็งชันอีกครั้ง


“ขอปฏิเสธครับ”


ไปตายอดตายอยากมาจากไหนนัก เหนื่อยจนจะตายอยู่แล้วโว้ย!


----------------------------------------------
กลับไปอ่านต่อได้ที่ https://goo.gl/BMnBBr




© OHARHA
Maira Gall