8/3/15

(CB) DARK HORSE [EP.7]





แบคฮยอนไม่แน่ใจว่าเขามีปัญหาใหญ่กับการ์ดที่เคยตั้งเอาไว้แล้วหรือเปล่า แต่เมื่อริมฝีปากสั่นเทานั่นประทับลงมาก็ราวกับว่าทุกอย่างจะโบยบินออกไปจากหัวสมอง เรียวลิ้นของชานยอลร้อนฉ่าแถมยังขมปร่า มันเจือด้วยรสเค็มปะแล่มจากหยาดน้ำตาที่หยดลงมาอาบแก้ม ไม่ใช่แค่ปาร์คชานยอลวงอาร์คที่ร่ำไห้กับจูบแรกในรอบสองปีของเรา แต่เป็นเขาด้วย เป็นบยอนแบคฮยอนแห่งดาร์คฮอร์สด้วยที่ต้องกลืนก้อนสะอึกลงคอทั้งที่เราทั้งคู่ยังคงแลกลิ้นกันอย่างโหยหา


“กลับมาเถอะนะ”


เสียงเข้มกระซิบที่ข้างใบหู ยอมรับว่ารู้สึกยินดีในน้ำตาของอีกฝ่ายเพราะมันเป็นการบอกทางอ้อมว่าแบคฮยอนยังมีเยื่อใยกับเขาอยู่ ทั้งดวงตาเรียวรีที่หม่นแสง หน้าอกที่สะอึกเบาๆด้วยต้องกลั้นความรู้สึกทั้งหมดมันทำให้ใจที่เกือบจะด้านชาดวงนี้เหมือนกับได้รับการกระตุ้นอีกครั้ง


ที่ผ่านมาเขาเป็นเหมือนตัวอะไรสักอย่าง ไร้หัวใจ ไร้อารมณ์ ไร้แรงบันดาลใจ เหมือนใช้ชีวิตไปวันๆเพื่อทำตามความฝันโดยไม่มีคนเคียงข้าง แต่วันนี้ ตอนนี้ อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าแบคฮยอนยังตัดกันไม่ขาด เช่นเดียวกันกับเขาที่ไม่เคยตัดอีกฝ่ายไปจากใจได้เลยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา


“....”


แบคฮยอนไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรในสถานการณ์แบบนี้ ในสถานการณ์ที่ชานยอลยังคงวอนขอด้วยสายตาอย่างนั้น ยามเมื่ออีกฝ่ายโน้มหน้าเข้ามาใกล้ กระซิบชื่อข้างหลังหูซ้ำๆเหมือนอย่างครั้งเก่าก่อน ใจทั้งดวงมันอ่อนยวบ ขาเหมือนกับจะหมดแรงทรงตัวไม่ไหวจนเจ้าของมือใหญ่ต้องพยุงเอาไว้ไม่ให้ทรุดลงไปด้วยกัน


แบคฮยอนคิดว่าเขากำลังเมา ชานยอลมอมเมาเขาด้วยจูบแบบที่เคยชอบทำ ริมฝีปากหนาเล็มเบาบริเวณกลีบปากล่าง ส่งลิ้นเข้ามากวาดเอาทุกอย่างออกไปจากตัวแล้วแทนที่ด้วยความอบอุ่นหอมหวานจนเจียนจะสำลัก มือนั่นลูบไล้ไปทั่วสรรพางค์ ทั้งใต้เสื้อ บั้นเอว เลื่อนไปเค้นคลึงตรงจุดอ่อนไหวที่มีแค่เราเท่านั้นที่รู้ ทำราวกับว่าจะย้อนเวลากลับไปแล้วดึงเอาความรู้สึกเก่าๆกลับมาตีหัวเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า


“พอ...”


แบคฮยอนพยายามผละออกจากวงแขนแกร่ง แต่ก็เท่านั้น ยิ่งดิ้นมากเท่าไร ชานยอลก็ยิ่งกอดรัดกายเขาให้แน่นมากยิ่งขึ้น กลิ่นโคโลญจน์เดิม อะไรเดิม ๆ ทำให้แบคฮยอนหายใจแทบไม่ออก ตอนนี้เขาเหมือนกับคนที่กำลังจมน้ำ ถูกชานยอลกดดิ่งลงไปในมหาสมุทรสีดำที่ทั้งมืดและเย็นเยียบจนร้าวไปถึงขั้วกระดูก


 “พอเถอะ --”


ในหูได้ยินแต่เสียงสั่นเทาของตัวเอง แบคฮยอนไม่รู้ว่ากำลังทำสีหน้าอย่างไรอยู่ แต่ดูจากสายตาของอีกฝ่ายในเวลานี้ เขาคงจะน่าสมเพชมากทีเดียว ปาร์คชานยอลคงรู้แล้วว่าบยอนแบคฮยอนยังตัดมือกีต้าร์วงเกลย์ออกจากความรู้สึกไม่ได้อย่างที่พึงแสดงออกมาตลอด


“แบคฮยอน”


เราจ้องตากันอยู่อย่างนั้น ไม่มีใครพูดอะไรออกมาจนกระทั่งชานยอลโน้มหน้าลงมาอีกครั้ง มือที่โอบรอบใบหน้าอุ่นขึ้นยามที่ริมฝีปากบดลงมาเบียดทับ คราวนี้น้ำหนักของมันมากขึ้นเหมือนบอกให้กลืนคำว่าพอลงไป สองมือเลื่อนขึ้นโอบรอบคออีกฝ่ายแล้วปล่อยให้ตัวเองถูกยกขึ้นเหนือพื้นโดยที่ขาทั้งสองข้างเกี่ยวเอวผอมเอาไว้


กำแพงสูงที่เคยสร้างไว้พังทลายลงต่อหน้าต่อตา รู้เพียงแค่แผ่นหลังสัมผัสลงกับผืนเตียงนุ่มพร้อมกับร่างของใครอีกคนที่ทาบทับลงมาอย่างร้อนรน บรรยากาศที่โรยตัวลงโดยรอบระอุขึ้นเพียงแค่ฝ่ามือคุ้นเคยแทรกเข้ามา ไม่ถึงวินาที เสื้อยืดสีเทาบนร่างก็ลงไปกองอยู่กับพื้นแล้วแทนด้วยริมฝีปากชื้นที่ประทับลงมา ชานยอลกดจูบย้ำที่ต้นคอของเขาแล้วลากริมฝีปากต่ำลงไปช้าๆราวกับกระตุ้นให้จดจำสัมผัสจากเจ้าของที่แท้จริงให้ได้


ลิ้นร้อนนั่นบรรจงเล้าโลมที่รอบปากทางเข้าก่อนจะแทรกนิ้วเข้ามากระตุ้นอะไรต่อมิอะไรให้ตื่นตัว แบคฮยอนรู้สึกได้ถึงความบีบรัดในตัวที่เรียกร้องหาใครอีกคน ขยี้ให้เขาต้องผ่อนลมหายใจแผ่วเบาเป็นชื่อซึ่งไม่อยากเอ่ย แน่นอนว่าชานยอลคงได้ยินมันชัดเจน ไม่อย่างนั้นคงไม่แทรกตัวเข้ามาเร็วจนคนข้างใต้กลั้นหายใจแทบไม่ทันอย่างนี้


เม้มริมฝีปากแน่นยามที่อีกฝ่ายโถมตัวเข้ามารวดเดียวจนหมด ทั้งแน่นและจุกจนต้องเอื้อมมือไปหาที่ยึดเช่นใบหมอนรองศีรษะ แต่พอยิ่งเลื่อนมือเข้าไปใต้หมอนมากเท่าไร สัมผัสเย็นเยียบที่คุ้นเคยก็ยิ่งทำให้ใจเต้นแรงมากขึ้นเท่านั้น


แบคฮยอนโก่งตัวยกบั้นท้ายขึ้น กรีดร้องออกมาเบา ๆ ยามที่อีกฝ่ายถดตัวออกแล้วกระแทกกระทั้นลงมาอย่างแรงเป็นจังหวะย้ำๆ เขากำสร้อยใต้นั้นแน่นขึ้นแทนหลักยึดเมื่อร่างสูงจับเอวไว้แล้วขยับถี่เข้าหา ดูเหมือนดวงตาคมกริบของคนด้านบนจะเพิ่งสังเกตได้ มือใหญ่จึงละออกจากเอวแล้วเลื่อนเข้ามาประสานกับมือของเขาโดยที่มีจี้ลูกกุญแจคั่นระหว่างกลาง


สลักสัญญาบนนิ้วนางไม่อาจแนบสนิท หัวใจยิ่งบีบรัดจนปวดหนึบเมื่อจำได้ดีว่าตนเคยเป็นเจ้าของมันมาก่อน แม่กุญแจที่ห้อยลงจากคอของใครอีกคนกระทบสัมผัสเย็นเสียดที่ปลายคาง บยอนแบคฮยอนไม่รู้ว่าเขาควรต้องรู้สึกอย่างไร


ทั้งหัวมันว่างเปล่า และมีเพียงมือกีต้าร์ของวงอาร์คเท่านั้นที่ปรากฏในกรอบสายตา



--------------------------------------------------------------------
อ่านต่อที่ 


© OHARHA
Maira Gall