6/5/15

(OS) DEEDS





DEEDS
CHANYEOL l BAEKHYUN
GENRE - PWP
- OHARHA -











ปาร์คชานยอลไม่ใช่คนแบบที่ผมชอบ


เสียงไขประตูห้องทำให้บยอนแบคฮยอนกระเด้งตัวขึ้นจากอาการกึ่งหลับกึ่งตื่น เขายกมือขึ้นขยี้ตาด้วยสีหน้าง่วงงุน ทั้งที่ไม่มีความจำเป็น แต่ร่างเล็กก็ขยับตัวจนหลังตั้งฉาก แล้วจึงเอนพิงกับพนักขณะควานหารีโมทมากดเปลี่ยนจากช่องรายการวาไรตี้รอบดึกเป็นภาพยนตร์รีรันสุดสัปดาห์


แบคฮยอนไม่รู้ว่าใครกลับมา แล้วเขาก็ไม่คิดจะหันไปดูจนกระทั่งอีกฝ่ายทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวเดียวกันและครางฮืมในลำคอตอนที่เจ้าของที่นั่งก่อนหน้าขยับตัวไปทางขวาเพื่อแบ่งพื้นที่ให้คนมาใหม่นั่งได้สะดวก ในทีแรก ชายหนุ่มเดาว่าคงเป็นพี่ซูโฮ ทว่าเขาคงหวังในความปกติมากเกินไป ถึงได้ต้องผิดหวังตามมาเมื่อเห็นกระเป๋าสะพายสีดำตรงปลายเท้าถูกเลื่อนไปวางพิงขาโต๊ะรับแขก


ช่วงนี้อากาศตอนกลางคืนเย็นเหลือเกิน แต่ก็ไม่เย็นมากพอให้คนขี้ร้อนสลัดหลุดจากความชื่นชอบที่จะใส่เสื้อยืดตัวหลวมโคร่งเวลาเข้านอน ซาวด์แทร็กเพลงจัสไลค์ยูในหนังทริลเลอร์ชื่อดังบนจอโทรทัศน์ขับเคลื่อนความรู้สึกของแบคฮยอนให้ตกอยู่ในภวังค์ ทั้งที่บทบาทตัวละครยังคงเชื่องช้า เนิบนาบ แต่เขากลับขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างประหลาดเมื่อคนข้างกายขยับเอนตัวพิงโซฟาเอกเขนก รอยขาดบนกางเกงยีนส์ขายาวสีดำล่อสายตาคนมอง จากนั้นจึงเลยขึ้นผ่านเสื้อแจ็กเก็ตยีนส์ตัวแปลกตาและจบที่เรือนผมสีขาวในความมืด


ใคร ๆ ก็บอกว่ามันเป็นสีเงิน แต่เขาคิดว่าเป็นสีขาวต่างหาก แรกเริ่มเดิมที แบคฮยอนเป็นคนถูกเสนอให้ทำผมสีนี้เพื่อลุคส์ใหม่ในอัลบั้มที่เพิ่งวางแผงเมื่อหนึ่งเดือนเศษ ทว่าเขาเป็นผู้ชายผิวโทนร้อน ผมสีขาวจึงตกไปอยู่ที่ร่างสูงโปร่งซึ่งกำลังนั่งดูนางเอกของเรื่องเอาค้อนทุบหน้าตัวเองด้วยความรู้สึกเรียบเฉย มีเสียงในลำคอลอดผ่านออกมาอีกแล้ว


อีกใจ แบคฮยอนก็นึกสงสัยว่าอีกฝ่ายดูมันรู้เรื่องจริงหรือเปล่า


“คนอื่นล่ะ” ในที่สุด เสียงทุ้มก็เปิดบทสนทนาแรกหลังผ่านไปเกือบสิบนาที


“หลับไปแล้ว” เขาตอบไม่เต็มเสียง อาจเพราะรู้อยู่แล้วว่าคำตอบนี้จะส่งผลอย่างไรเมื่อกอปรเข้ากับประตูห้องที่ปิดสนิททุกบาน การมีห้องนั่งเล่นเป็นที่นอนเดี่ยวของตัวเองทำให้รู้ว่าในหมู่สมาชิกวง ทุกคนต่างเหนื่อยล้าและไม่ชอบตื่นขึ้นมากลางดึก จะมีก็แต่เขา ที่เพียงแค่เสียงกุกกักนิดหน่อย แบคฮยอนก็พร้อมจะลืมตาลุกขึ้นมองแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น


ปาร์คชานยอลหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ เดาได้ยากว่าพึงพอใจหรือแค่ขบขันกับมุกตลกร้ายในจอโทรทัศน์กับฉากแสร้งกรีดร้องบ้าคลั่งของนางเอก มือใหญ่ล้วงหยิบซองบุหรี่จากกระเป๋าแจ็กเก็ตที่เพิ่งถอดออก ผู้จัดการไม่ชอบให้ใครก็ตามสูบบุหรี่ภายในห้องพัก แต่ครั้นจะออกไปยืนกินลมที่ระเบียง เขาก็คิดว่ามันเสี่ยงอีก


ควันสีเทาพวยพุ่งออกทางจมูกและปากในไม่กี่วินาทีให้หลังจากการอัดนิโคตินเข้าปอด กลิ่นเมนทอลตลบอบอวล มันย้อมให้แบคฮยอนเหมือนคนอยู่ท่ามกลางควันเอฟเฟคบนเวที ต่างกันที่กลิ่นหอม ๆ กับอาการแสบตาเสียจนไม่รู้ว่าอีกฝ่ายยันตัวเองเข้ามาประชิดได้เมื่อไร


ชานยอลปล่อยให้ควันเล็ดจากช่องอากาศระหว่างริมฝีปาก ลิ้นชื้นเลียกลีบสีชมพูรั้นจนเปียกชุ่ม จากนั้นจึงชอนไชและเร่งเร้าให้เขาตอบรับความกระสันนั้นด้วยการตวัดต่อต้าน อย่างหนึ่ง มันทำให้รสจูบไม่จืดชืด แต่อีกหนึ่งก็คืออัตราเร่งความเร้าใจจนร่างสูงโปร่งต้องขยับตัวเองรุกคืบเข้ามา ปลายมวนบุหรี่แกว่งผ่านตรงนู้นทีตรงนี้ที แบคฮยอนไม่อยากให้เขาถูกจี้อีกเป็นครั้งที่สี่ในรอบเดือน


เนื้อขาส่วนเดียวจากรอยขาดตรงเข่าสัมผัสเข้ากับช่วงกลางลำตัว ครั้งนี้แบคฮยอนครางฮืมบ้างแล้ว มือข้างซ้ายรั้งเอาเสื้อยืดสีดำในขณะที่ถูกดันจนแผ่นหลังเกือบราบไปบนโซฟา เป็นอีกครั้งที่เขากังวลว่าอาจมีใครออกมาเห็น ทว่าก็รู้อีกว่าอาจถูกเห็นไปแล้วจริง ๆ ก็ได้ แต่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา


คนตัวเล็กกว่าไอค่อกแค่กการจากรมควัน นั่นทำให้ชานยอลพออกพอใจจนยกบุหรี่ขึ้นมาสูบอีก แม้จะคีบเอาไว้ด้วยนิ้วชี้และนิ้วกลาง แต่เวลาจรดลงบนริมฝีปาก ชานยอลกลับชอบใช้นิ้วโป้งประกบมันแทนนิ้วที่ยาวที่สุดเสียมากกว่า แบคฮยอนเคยคิดว่าเป็นท่าที่ก้ำกึ่งระหว่างคนสูบเป็นและไม่เป็น แต่เขาคิดผิด ชานยอลทำให้มันดูดิบได้อย่างไม่น่าเชื่อเมื่อกอปรเข้ากับแทททูขนาดใหญ่ที่เจ้าตัวทดลองติดบนแขนตลอดระยะเวลาหลายเดือน


ร่างสูงอัดเอามวลกลิ่นเมนทอลเข้าลำคออีกอึดใหญ่แล้วผ่อนออก เสื้อหลายตัวของชานยอลมีรอยไหม้จากบุหรี่ในตอนที่ถอดมันออกจากช่วงบนของลำตัว มือใหญ่สอดเข้าใต้ข้อพับเข่า รั้งเอาร่างใต้ให้ขยับเข้ามาจนช่วงสะโพกร้าวปลาบ ชานยอลไม่สนใจ เพราะเมื่อได้ท่าทางที่ต้องการอย่างนั้น เขาก็แทรกมือเข้ามาใต้สาบเสื้อในขณะที่อีกมือดึงบุหรี่ออกจากปากแล้วโน้มใบหน้าลงมาใกล้


แบคฮยอนเสียวซ่านอย่างประหลาดทุกครั้งที่ถูกคลอเคลียด้วยลมหายใจ ไม่ว่ามันจะผาดริมฝีปาก จมูก สันกราม หรือแม้แต่รดไออุ่นลงบนซอกคอ ทั้งหมดยิ่งกระตุ้นให้เขาต้องบังคับตัวเองไม่ให้ยกขึ้น เพียงเพราะครึ่ง ๆ กลาง ๆ จากการกระทำเอาแต่ใจเมื่อครู่


“เอายังไงดี”


อยู่ดี ๆ ชานยอลก็เปล่งเสียงพึมพำออกมาเมื่อหยุดสายตาอยู่ที่ข้างแก้ม มันเป็นประกายวาววับ เจ้าเล่ห์ แล้วก็คล้ายจะเด่นชัดที่สุดท่ามกลางห้องนั่งเล่นมืด ๆ ซึ่งมีเพียงแสงจากโทรทัศน์เข้าช่วย พวกเขาเพิ่งเริ่มความสัมพันธ์นี้ได้ไม่นาน ทุกครั้งที่มันเกิดขึ้น ไม่ใครก็ใครจะต้องมีคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังทำอยู่


แน่นอน เราต่างคิดว่ามันตลกดี


“คยองซูกับจงอินนอนอยู่ในห้อง” ได้ยินอย่างนี้ เรื่องที่จะไปอัดกันอยู่บนเตียงแคบ ๆ แล้วคอยโยนตุ๊กตาริลัคคุมะซึ่งร่วงหล่นลงมาเกะกะก็เป็นอันต้องตัดทิ้งไป ตัวเลือกที่สองคือห้องว่างของจางอี้ชิง แต่เพราะเป็นช่วงระหว่างการคัมแบ็ค ทุกคนจึงรวมตัวกันอยู่ที่นี่และหาเวลาส่วนตัวได้ยากเหลือเกิน


“งั้นก็ช่างมัน”


 ชานยอลตัดบท โถมท่อนบนเปลือยเปล่าลงเสียดกับผ้าคอตตอนที่ถูกเลิกขึ้นจนเห็นยอดอก จ้ำริมฝีปากลงไปแรง ๆ เพียงเพื่อบอกอีกฝ่ายกลาย ๆ ว่าเขาไม่ใช่คนความอดทนสูงนัก โอ้ แบคฮยอนคิดว่าตัวเขาเองก็เหมือนกัน ต่างกันที่เขาไม่รู้มาก่อนว่าชานยอลเป็นคนกล้าได้กล้าเสียเพียงไร มือใหญ่ใส่บุหรี่ลงไปในขวดน้ำที่ถูกเปิดฝาทิ้งไว้บนโต๊ะจนเกิดเสียงดังฟู่ ให้ตายเถอะ ถ้าจะถามกันสักนิดว่ายังดื่มอยู่ไหมก็คงดี


เราต่างรัดรึงกันเหมือนสัตว์กำลังกระหาย อาจมีสักนาทีที่ลืมคิดเรื่องกันและกันหรือแม้แต่เซ็กส์แก้เหงาที่ยอดเยี่ยมเมื่อคืนก่อน แต่หากผ่านไปได้สักพัก เมื่อต้องเจอหน้ากันและรู้แก่ใจว่าอะไรเปลี่ยนไปแล้ว อาจไม่มีครั้งไหนที่ปาร์คชานยอลไม่อยากลากอีกฝ่ายไปหาที่ลับตาดี ๆ สักที่เพื่อสร้างสิ่งที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่า แบคฮยอนไม่คิดไม่ฝันว่าการเป็นเพียงเพื่อนร่วมวงธรรมดาจะพาให้ทั้งคู่มาถึงจุดนี้ได้ ทั้งที่เมื่อก่อนชานยอลไม่ชอบขี้หน้าเขาด้วยซ้ำ


พวกเขาเคยแค่นหัวเราะให้กับจินตนาการโง่ ๆ ที่แฟนคลับจับคู่เข้าไว้ด้วยกัน อนึ่ง ความเป็นจริงคือบยอนแบคฮยอนเป็นผู้ชายที่คบผู้หญิงมาทั้งชีวิต เขาสรรหาความตื่นเต้นด้วยการทำให้เรื่องเหลือเชื่อเป็นจริงด้วยเริ่มต้นจีบรุ่นพี่ร่วมค่าย แต่ไม่มีอะไรสวยงามนักเมื่อต้องก้าวขาออกสู่ความจริง


แม้แต่ชานยอลก็เช่นกัน


“เบาหน่อย” ร่างเล็กท้วง ความรู้สึกเจ็บแปลบที่ก้ำกึ่งระหว่างรู้สึกดีในตอนที่ฟันขาวนั้นขบยอดถันด้วยความหมั่นเขี้ยว สิ่งภายใต้กางเกงยีนส์สีดำดื้อนูนออกมา มันเสียดเร้าให้ร่างกายของแบคฮยอนร้อนรุ่ม เขานึกย้อนไปถึงวันแรกที่เราต่างรู้ตัวว่ารู้สึกแปลก ๆ ต่อกัน


จากที่สากโลนจึงกลายเป็นความวาบหวาม น้ำลายของชานยอลชุ่มทั่วไตสีชมพูและส่งเสียงจ๊วบจ๊าบในตอนที่ตั้งใจเม้มปากแรง ๆ ซึ่งแทนที่จะขัน กลายเป็นว่าความไม่เคยชินกลับเล่นงานเราให้เป็นไปในทางตรงกันข้าม กลีบปากเลื่อนต่ำไปจนไล้เลียอยู่ที่หน้าท้อง มีครั้งหนึ่งที่อีกฝ่ายนึกสนุกด้วยการใช้ลิ้นวาดเป็นอักษร ทว่าสติเจ้าของร่างไม่ช่วยให้การเดามั่วซั่วสัมฤทธิ์ผลได้ในคำตอบสามครั้งแรก


A-Z


ปาร์คชานยอลเล่นมันอีก แต่แบคฮยอนไม่ลังเลที่จะตอบ “เขียนว่าทำเร็ว ๆ เหรอ”


คนฟังหัวเราะ นี่มันเกี่ยวกับอักษรภาษาอังกฤษที่เขาใบ้ให้เสียเมื่อไรกัน จัดการดึงเอากางเกงนอนขาสามส่วนออกจากเรียวขา ในทีแรก ชานยอลก็รู้สึกแปลก ๆ กับขนหน้าแข้งแบบผู้ชายอยู่บ้าง แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้ว


ชั้นในที่ถูกเกี่ยวลงใต้พวงแฝดส่งผลให้ท่อนลำนั้นดีดผึงขึ้นชี้หน้าคนตัวสูง การแสร้งมองไม่เห็นทำให้เขาอายน้อยลง และความขลาดเขินนั้นก็หายเป็นปลิดทิ้งเมื่อหลักฐานเพียงหนึ่งเดียวถูกกลืนเข้าไปจนสุดคอหอย แบคฮยอนได้แต่ครางอืมในลำคอ แวบหนึ่ง เขาเผลอจินตนาการว่าไม่สามารถส่งเสียงอะไรออกไปได้เพราะปากแน่นไปด้วยบางสิ่งเช่นกัน โอ้ ไหนว่าระหว่างเรา ไม่มีใครเป็นคนลามก


ชานยอลชะงักหยุดครู่หนึ่งเพราะเสียงเอี๊ยดอ๊าดจากการขยับตัวให้เข้าที่เข้าทาง ทั้งคู่มองไปโดยรอบให้แน่ใจอีกทีว่าต้นเสียงจากห้องนั่งเล่นนี้คงไม่ดังพอจะปลุกให้ใครตื่นมาเจอ แต่รอนานไปก็เสียเปล่า ชานยอลให้แบคฮยอนเป็นฝ่ายดูต้นทางแล้วขยับใบหน้าขึ้นลงต่อไป ทั้งครูดด้วยฟันขาว ไล้เลียส่วนปลายด้วยลิ้นชุ่ม เมื่อขยับมือไปทาบลงบนผมทุยแล้วเห็นว่ามันชุ่มไปด้วยเหงื่อซึ่งซึมชื้นบนขมับ แบคฮยอนถึงรู้ว่าภายใต้อารามเช่นนี้ ชานยอลก็ร้อนไม่ต่างจากเขาเช่นกัน


“ฮื้ม...” คนตัวเล็กชอบเวลาที่แขนของตนขยับไปตามการเคลื่อนไหวศีรษะของอีกฝ่าย จะมีสักกี่ครั้งที่ได้รู้สึกว่าการควบคุมปาร์คชานยอลนั้นแสนง่าย แน่นอน มันแทบไม่มี เพราะท้ายสุดแล้ว คนโอนอ่อนก็ต้องเป็นเขา


ครั้งแรกที่เราตกลงกัน ชานยอลไม่ให้สิทธิ์บยอนแบคฮยอนได้เลือกด้วยซ้ำ


ผู้ชายคนนี้เสือกกายเข้ามาเมื่ออารมณ์ของเราได้ที่ แบคฮยอนร้องเต็มเสียงทั้งที่สมองจำไม่ได้ว่ามีใครอยู่ร่วมหอพักตอนนั้นหรือเปล่า ทฤษฎีอีกข้อที่เขามีโอกาสได้เรียนรู้คือ การปฏิเสธครั้งต่อมายากเสมอ เขากลายเป็นฝ่ายถูกควบคุม ส่วนชานยอลเสนอบทบาทของเรา


ขาข้างหนึ่งถูกร่างสูงยกมันขึ้นพาดบนไหล่ ลิ้นร้อนตวัดรัวถี่ ๆ เช่นเดียวกับริมฝีปากที่รูดแรงขึ้น บางครั้ง ชานยอลก็เผลอกัดมันราวกับอยากเร่งเร้าให้สิ่งที่อัดแน่นแสดงตัวออกมาเร็ว ๆ เสียงครางต่ำอื้ออึง หลังจากนั้นไม่นานนัก ทั้งร่างเล็กกลับต้องสะดุ้งเมื่อรู้ตัวว่าเผลอฉีดป้อนบางอย่างใส่โพรงปากนั้นเสียแล้ว


เราไม่ได้ลึกซึ้งต่อกันถึงขั้นที่จะรับทุกอย่างได้ อย่างนั้น เขาถึงไม่แปลกใจที่อีกฝ่ายรั้งร่างให้ยิ่งเข้าไปใกล้ ทั้งแหกเรียวขาให้อ้าออกระหว่างใบหน้าและยกสะโพกขึ้นจนเห็นช่องทางที่เราต่างไม่หาคำอธิบายหน้าตาของมัน ชานยอลพ่นสิ่งที่อยู่ในปากรดลงไปโดยไม่ลืมใช้นิ้ววาดกวาดไม่ให้หยดเปื้อนโซฟา เขาถูวนมันแรง ๆ ให้คู่กรณีร้องซ่าน เมื่อคิดว่าเปียกแฉะจนง่ายขึ้นแล้วถึงได้ชำแรกนิ้วกลางเข้าไป อาจเพราะครั้งล่าสุดเป็นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ชานยอลถึงต้องออกแรงอีกนิดหน่อยเพื่อสู้กับแรงบีบรัดจนพ้นข้อนิ้วที่สอง


“อื้ม...” แบคฮยอนคราง ความพึงใจยิ่งเร่งรัดให้ชายหนุ่มกระสันความคิดถึงสิ่งที่จะเกิดต่อจากนี้ให้ไวขึ้น สะบัดขาที่พาดอยู่บนไหล่เปลือยเปล่านั้นเล็กน้อยเพื่อส่งให้ชั้นในหลุดออกจากปลายเท้า เขาอยากวิ่งไปปิดล็อกประตูห้องนอนทุกบานจากด้านนอกเพราะกลัวใจว่าถ้ามีใครเปิดมาเห็นภาพนี้ แบคฮยอนคงมองหน้าคน ๆ นั้นไม่ติดไปอีกนาน


ชานยอลไม่เคยทักท้วงว่าอย่าเกร็ง กลับกันแล้ว ดูเหมือนชายหนุ่มจะรู้ดีด้วยซ้ำว่ายิ่งเกร็งตรงนั้นมากขึ้นเท่าไร ความรู้สึกยามกระทุ้งนิ้วเข้าไปก็ยิ่งสุดยอดมากขึ้นเท่านั้น คนตัวสูงกำลังหาทางแทรกนิ้วที่สองเข้ามาทั้งเลียฝีปากด้วยความกำหนัดเต็มแก่


ทันทีที่ทำสำเร็จ ปากอิ่มก็ขยับสั่งว่า “วันนี้นายขึ้น”


และแบคฮยอนขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยิน “อะไรนะ”


ให้ตายเถอะ ถึงนี่จะไม่ใช่ครั้งแรก แต่ชานยอลก็รู้ว่าเขาน่ะอายที่ตัวเองเป็นฝ่ายถูกใส่อย่างกับอะไรดี มันคืออย่างหนึ่งที่ย้อนแย้งกับความช่างเอาใจ เพราะพอเป็นเรื่องเซ็กส์กับคนตรงหน้าแล้ว แบคฮยอนพอใจที่จะแสร้งเป็นผู้ตอบรับเพียงทางเดียวมากกว่า


“มันผุดขึ้นมาเต็มหัวเลย” ชานยอลว่าอย่างร้อนรน คำตอบขาดช่วงเมื่อร่างสูงรีบแทรกลิ้นเข้าไปตอดสู้กับช่องทางนั้นทันทีที่ดึงนิ้วออก


“อะ...!


มือเล็กเอื้อมไปขยุ้มเรือนผมสีขาวและสางขึ้นเพื่อไม่ให้มืออยู่นิ่ง ยิ่งรู้สึกดีมากเท่าไร แบคฮยอนก็ยิ่งรู้สึกว่ามือของเขาสะเปะสะปะเกินไป มันทำแม้กระทั่งปาดเหงื่อบนขมับและปัดผมไปด้านหลัง ทั้งลูบตามแนวหางตา หรือแม้แต่สัมผัสเบา ๆ เข้ากับใบหูที่เป็นทั้งจุดเด่นและจุดบอดเวลาอีกฝ่ายนึกอารมณ์เสียใส่รูปลักษณ์ของตัวเอง


เสียงชื้นแฉะจากกึ่งกลางลำตัวดังสลับเสียงซาวด์แทร็กของภาพยนตร์ในจอโทรทัศน์ เสื้อยืดสีขาวยังคงกองที่แผ่นอกช่วงบนโดยไม่ได้ถูกถอดออก ท่อนแขนเปื้อนลายแทททูลูบไปมาตามแนวขาขึ้นจนถึงเหนือสะโพก ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้เมนโวคัลของวงไอดอลชื่อดังคิดว่าตัวเองร้องเพลงไม่เป็นไปชั่วขณะ เพราะทนไม่ไหว เขาถึงทำใจกล้าเลื่อนมือไปขยับรั้งแกนกายใกล้กับศีรษะนั้นอีกรอบ ส่วนชานยอลเหลือบสายตาขึ้นมองเพราะอยากหยอกล้อ


เขาชักลิ้นกลับ ตื่นใจกับกลิ่นของมันอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงว่าให้จบประโยค


“ฉันอยากเขียนเพลงตอนนี้”


“พระเจ้า... นายบ้าไปแล้วแน่ ๆ” ไม่พูดเปล่า มือนั้นยังจับขาสองข้างลงจากบ่าให้ชันอยู่ข้างตัว แล้วเปลี่ยนขั้วด้วยการดึงรั้งสองแขนขึ้นมาแล้วเอนตัวนอนไปหนุนพนักโซฟาอีกฝั่ง “นายก็รู้ว่าฉันไม่ --”


ชานยอลเด้งตัวสวนขึ้นทีหนึ่งเพื่อให้สิ่งที่นูนอยู่ใต้กางเกงยีนส์กระทุ้งทางเปียกชื้น แบคฮยอนทำสีหน้าปั้นยาก เขาไม่คิดว่านี่เป็นเวลาของการกลั่นกรองสมองเพื่อทำอะไรแบบนี้เลย แสร้งนิ่งดูเพราะคิดว่าอาจถูกล้อเล่น แต่แขนยาวนั้นดันเกี่ยวกระเป๋าส่วนตัวที่วางพิงโซฟามารื้อหาปากกากับสมุดด้วยมือเดียวเพื่อยืนยันอีกรอบ


คนตัวสูงส่งด้ามดินสอเข้าปากเพื่อคาบไว้ สุ่มเปิดสมุดที่วางอยู่บนแผ่นอกมั่ว ๆ หาหน้าเปล่า ในขณะที่อีกมือก็พยายามปลดกระดุมกางเกงออกโดยที่ไม่สนใจว่ามันจะสำเร็จหรือไม่ น่าหงุดหงิดสิ้นดี พ่อนักดนตรี


และเพื่อไม่ให้คืนนี้จบไวจนเกินไปนัก ร่างเล็กรู้ว่าเขาจะต้องช่วยชานยอลถอดกางเกงในขณะที่เขากลายเป็นจุดสนใจน้อยกว่าบทเพลงในหัว ตรงสะโพกค่อนข้างถอดยากเป็นพิเศษ ซึ่งถ้าชานยอลสนใจมองสักนิดก็คงรู้ว่ามีอะไรเกี่ยวไว้ แบคฮยอนถึงได้ตัดสินใจแก้ปัญหานี้ด้วยดึงยีนส์ลงชั้นหนึ่ง ก่อนจะได้ดึงชั้นในสีรุ้งลงจากการเป็นปราการด่านสุดท้าย ความหมั่นไส้ทั้งหมดทั้งมวลสั่งให้มือเล็กแกล้งกดนิ้วกลางกับนิ้วนางลงไปบนเนินนั้นแรง ๆ


ชานยอลครางซี้ด เนื้อเพลงที่เรียงตัวอย่างเป็นระบบระเบียบเกือบพังครืน


คนบนร่างใช้นิ้วป้ายน้ำลายเอื้อมผ่านหว่างขาไปแตะเข้ากับจุดนั้นทั้งความรู้สึกแปร่งปร่าเพื่อเช็กความพร้อม ส่วนอีกมือก็ช่วยรูดรั้งลำใหญ่ให้แข็งพอจะสู้ ชานยอลคว้าเอาซองบุหรี่ที่วางบนโต๊ะตัวเตี้ยมาจุดสูบ ตาก็เหลือบมองอีกฝ่ายเอี้ยวไปเท้าหน้าขาเขาเอาไว้ในขณะยกตัวขึ้นขยายใต้สรรพางค์อีกรอบ


“เชื่อเลย” แบคฮยอนสบถ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะใส่ลงไปบนหนุ่มหน้าสมุดไม่มีผิด


ช่องทางสีสดยิ่งเต้นตุบแรงขึ้นเมื่อสัมผัสเข้ากับปลายสิ่งแปลกปลอมซึ่งตั้งโด่ ความเจ็บแปลบแล่นริ้วขึ้นหัว ยิ่งส่งท่อนเอ็นให้ลึกเข้าจนเกือบสุด กลับยิ่งจุกเสียดจนคิดว่าร่างเขาอาจแตกเป็นเสี่ยงได้ในไม่ช้า ควันกลิ่นเมนทอลคลุ้งทั่วจนแสบตา ทั้งหมดทั้งมวลล้วนน่าหงุดหงิดเมื่อชานยอลไม่คิดสนใจการมีเซ็กส์ครั้งนี้มากไปกว่าแค่ขยับตัวให้


“ชานยอล... ช่วยหน่อยสิวะ...”




They say my brain meltin', and the only thing I'll tell 'em
Is I'm livin' for the present and the future don't exist
So baby take your clothes off, a chance like this




ใบหน้าหลังสมุดกระตุกยิ้ม อีกครั้งที่แบคฮยอนจุกจนเหมือนของในท้องจะตีขึ้นบนลำคอเมื่ออีกฝ่ายกระแทกตัวขึ้นส่งให้เจ้าโลกเข้าไปได้จนมิดโคน ทั้งคู่นิ่งไป  กระทั่งสองมือเล็กค่อย ๆ ทาบลงบนหน้าท้องแบนราบและออกแรงขยับตัวขึ้นลงจนปาร์คชานยอลครางต่ำในลำคอ เนื้อในหัวพลุ่งพล่านอย่างกับเสียงน้ำแตกเป็นจังหวะเพลง




You may never get to show off, show off
Show off what you talking about
Unless you like to tease, baby
When in reality you don't know how to please, baby




แบคฮยอนปล่อยขาขวาให้ตกจากโซฟาไปลอยเหนือพื้น เข่าอีกข้างก็ดันส่งกับผ้าหนังโดยไม่สนใจเสียงลั่นเอี๊ยดว่าจะไปรบกวนใครเข้าอีกแล้ว เอวสอบควงทางขวา หมุนวนรอบองศาเพื่อสร้างความเคยชินให้ร่างกายทั้งริ้วแก้มแดงเรื่อ แค้นอกแค้นใจไม่น้อยเมื่อเห็นปาร์คชานยอลยังจดยุกยิกลงบนสมุดซึ่งยกขึ้นบังใบหน้า ผละจากการเขียนทีก็ดึงบุหรี่ออกเพื่อพ่นควันและอัดเอานิโคตินเข้าปากอีกระลอก


จากเนิบนาบก็ยิ่งเร็วและรั้น กระทั่งสะโพกของแบคฮยอนกระแทกลงบนตัวของเขาถี่ ๆ เช่นเดียวกับมือหนึ่งที่ผละออกไปเพื่อนยึดโซฟาเป็นหลักไว้แทน คนตัวสูงครางต่ำ ทุกอย่างทวีความเป็นไปเช่นเดียวกับที่ภาพในหัวแจ่มชัดขึ้น ชานยอลนึกอยากให้อีกฝ่ายเห็นเนื้อเพลงที่เขาเร่งเขียนตอนนี้




Blue-ball queen, take your fucking seat, baby
Ride it out, now I know you wanna scream




สมุดตกไปอยู่ที่พื้นรวมกับเสื้อยืดสีดำ ชานยอลเด้งตัวขึ้นนั่ง เท้ายึดมือขวาไว้กับโซฟาและใช้อีกมือดึงบุหรี่ออกจากปากเพื่อทิ้งลงในขวดน้ำเป็นมวนที่สอง จับเข้าที่สะโพกนิ่มเต็มมือแล้วขยำขยี้สุดแรง ทั้งฟอนเฟ้น ตบมันเพื่อเรียกให้หน้าหวานขมวดค้อน ยิ่งตอนที่แบคฮยอนสบถชิทเบา ๆ เขาก็ยิ่งจับเอาร่างเล็กกระแทกรับจนลมหายใจขาดช่วงด้วยความสะอกสะใจ


“อา... อื้ม...” การรู้งานของแบคฮยอนส่งผลให้เจ้าตัวย้ายท่อนแขนมาโอบรอบคอร่างสูงแทน ช่องว่างระหว่างทั้งคู่น้อยลง เหงื่อที่เหนียวเหนอะบนหน้าขายิ่งเสมือนกาวท้าให้เราผละจากกันรุนแรงขึ้น ร่างเล็กพอใจเมื่อตัวเขาถูกยกขึ้นสูง และชานยอลก็พอใจเมื่อเขาสามารถส่งตัวเองเข้าจนสุดโคนได้ถึงหลายต่อหลายครั้ง “ลึกเป็นบ้า...”


“โคตร --” ชานยอลพูดไม่จบ แต่เขาคิดว่ามันแทนกันได้ “ซี้ด...”


หัวเราะออกมาเบา ๆ เมื่อสิ่งที่คิดนั้นทำได้ยากเหลือเกิน ถ้ามีใครสักคนยอมหยุดนิ่ง แบคฮยอนคิดว่าเราคงไม่ต้องเจ็บตัวด้วยการเผลอขบเอากลีบปากคนตรงหน้าแทนที่จะเป็นการแลกจูบดูดดื่มอย่างที่หวังไว้ แต่ใครสน เขากัดปากล่างของชานยอลไม่ปล่อย ในขณะที่คนตรงหน้าพยายามกระแทกกระทั้นแล้วใช้มือซ้ายบีบก้นเขาแรงยิ่งกว่าเดิม ออกแรงรูดรั้งส่วนอ่อนไหวให้ร่างเล็กเสร็จไล่เลี่ยกันเมื่อท่อนแข็งของเขาเปล่งเต็มพิกัดแล้ว มันใหญ่จนคับไปทั้งตัว


ไอ้บ้านี่มันจริง ๆ เลย


ปาร์คชานยอลกดจูบแรง ๆ ไปทั่วทุกพื้นที่ตรงหน้า ทั้งไหปลาร้า แผ่นอก หรือแม้แต่ต้นคอขาวเมื่อร่างบนตัวเชิดหน้าขึ้นให้ทำได้สะดวก ภายในหัวแบคฮยอนว่างเปล่า นี่เป็นช่วงเวลาไม่กี่สิบนาทีที่ทั้งคู่จะปลดปล่อยให้กันได้หลังต้องเจอเรื่องหนักอกหนักใจมาตลอดทั้งสัปดาห์ ไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เราต่างไม่ชินกันและกันมากขึ้นเลยสักนิดเดียว




What's good, young ho? You about it?
Got a loft right now, you're inside it
You excited?




มือหนาละออกจากกายคนตรงหน้าไปคว้าเอาซองบุหรี่มากะเทาะสูบมวนที่สาม แต่พอเปิดฝาไฟแช็คซิปโป้สีเงินสลักคำว่าสเตอร์ลิงและแบรดฟอร์ดตัวเล็ก ๆ บุหรี่บนปากก็ไหวไปมาจนชานยอลไม่อาจทำให้มันติดไฟได้ หันไปมองตัวปัญหาก็เห็นว่าเอาแต่หัวเราะที่กวนใจเขาได้ ร่างใหญ่จึงหยัดตัวขึ้นโถมไปข้างหน้าจนแผ่นหลังเล็กกระแทกลงบนพื้นโซฟา ทั้งยังดันเข่าเสือกกายเข้าจนสุด ไม่เว้นจังหวะให้อีกฝ่ายได้โอดโอยกับความรุนแรงแผลง ๆ นี้นานจนเกินไป


ชานยอลดึงบุหรี่ออกจากปากแล้ววางคู่กับซิปโป้บนโต๊ะ จัดการให้ความสนใจแบคฮยอนอย่างแสนสาหัสด้วยการบดขยี้ริมฝีปากอีกหลายต่อหลายที อารมณ์ของทั้งคู่พุ่งสูง ยิ่งได้ขยับย้ายมากกว่าสองท่า แบคฮยอนก็ยิ่งคิดว่าเขาเห็นสวรรค์รำไรอยู่ปลายสายตา


ชานยอลขยับตัวช้าลง ก้มลงจูบกันซ้ำ ๆ อีกไม่กี่ครั้ง สัมผัสอุ่นร้อนแรกก็ฉีดจนล้นออกมาเปรอะหน้าขา และพอได้ก้มลงมองบนหน้าท้องตัวเองบ้างแล้ว ชานยอลคิดว่าสีของเราคล้ายกัน


ทั้งคู่ผละออกมานั่งข้างกันทั้งหว่างขาชื้นแฉะ ตอนนี้เข้าสู่รายการโฆษณาตอนกลางคืนที่ไม่น่าสนใจแล้ว ปาร์คชานยอลไม่มีอุปสรรคในการเอื้อมตัวไปหยิบบุหรี่มาจุดสูบ เช่นเดียวกับการคว้ารีโมทเพื่อกดปิดเสียงกวนใจจากโทรทัศน์ พ่นควันพวยพุ่งออกเป็นรูปวงโดนัทหลังจากกลั้วมันในลำคอตามสูตร ถ้าเทียบกับเขาที่ยังหอบหายใจระหว่างดึงสติกลับมาให้ได้ แบคฮยอนคิดว่าคนข้างตัวเก่งเกินไปกับอะไรแบบนี้


“ฉันไปหยิบทิชชู่ก่อน” คนตัวเล็กโพล่งขึ้น โล่งใจที่ไม่มีเสียงกุกกักจากห้องนอนไหนดังขึ้นมาให้เขาใจเสียอย่างที่กลัวเอาไว้


หากแต่พอทำท่าจะลุกขึ้น เชื่อเถอะว่านี่เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ปาร์คชานยอลรั้งเขาไว้เพื่อจูบเหมือนไปตายอดตายอยากมาจากไหน ลิ้นร้อนกลิ่นตัวเองวาดกวาดไปทั่วโพรงปาก ชอนไชหยอกล้อและอยู่ไม่สุขจนกว่าจะขาดใจตาย หรือถ้าให้พูดแบบบัดซบตามความจริงล่ะก็ มันเหมือนเขาถูกพ่นควันใส่ปากเสียมากกว่า


เมื่อผละออก เรามองหน้ากันด้วยความรู้สึกแปลกประหลาดเช่นครั้งแรกที่ยอมรับว่าต้องการคนตรงหน้ามากเพียงไร


“เราเป็นอะไรกัน”


ทุกอย่างที่ผ่านมาล้วนธรรมดาจนน่าเฉยชาถ้าเทียบกับคำนี้ ตาเรียวรีเบิกกว้างขึ้น แววของความจริงจังในสายตาอีกฝ่ายมันทำเอาเขาไปต่อไม่ถูก ทั้งร่างถูกดึงให้นั่งลงที่เดิม ขาสองข้างก็ถูกยกพาดบนหน้าขา มันช่างหนักอึ้งเหมือนถูกล่ามโซ่ที่ชื่อพีซีวายไม่มีผิด


บยอนแบคฮยอนสับสนนิดหน่อย เขาแค่ไม่คิดว่าเซ็กส์ครั้งนี้จะพิเศษกว่าเดิม “ไม่รู้สิ”


ชานยอลเงียบ ริมฝีปากไม่ได้ขยับบอกตรง ๆ ว่ากำลังรอคำตอบ


“ฉันยังจัดการตัวเองไม่เรียบร้อยดี”


เราต่างรู้ว่าเรื่องอะไร อาจเป็นแฟนสาวที่บยอนแบคฮยอนยังคารังคาซังด้วยเพราะเหตุผลว่าทั้งคู่ไม่สามารถเอาชนะใจแฟนคลับได้ หรือจะรักฝังใจที่ปาร์คชานยอลใช้เป็นเหตุผลโง่ ๆ สำหรับการลดทิฐิลงมองคนใกล้ตัวที่ตั้งแง่นักหนา ใครจะคิดว่าแค่การแต่งเพลงด้วยกันเพื่อเข้าฉากในซีรีส์ออนไลน์เมื่อไม่กี่เดือนก่อน มันจะทำให้พวกเขาเปลี่ยนมุมมองเพื่อต้องการรู้จักกันให้มากกว่าเดิม


ชานยอลอัดนิโคตินเข้าปอดอีกทีหนึ่ง แล้วจัดการโน้มคนตรงหน้าเข้ามามอบจูบรสบุหรี่ที่เขาคิดว่ามันไม่ได้ด้อยไปกว่าครั้งไหน แบคฮยอนคิดนานเกินไป คิดทั้งที่รู้ว่าจุดนี้เราเข้ากันได้ดีกว่าใครทั้งหมดในโลก


“บ้าเอ๊ย... นายก็รู้ว่าฉันต้องร้องเพลง จะให้คบกับคนที่เอามะเร็งใส่ปากกันทุกวันเนี่ยนะ”


หลังการกระทำทุกอย่าง เราชอบนั่งถกเรื่องความรู้สึกทั้งที่ไม่ใส่เสื้อผ้า ตลกดีที่ความเหงาไม่ได้ทำให้แบคฮยอนสนใจคนที่ใกล้ชิดกันมากกว่าเขา แล้วก็ตลกดีที่คนขี้อิจฉาอย่างปาร์คชานยอลดันลืมไปชั่วขณะว่าเคยเกลียดหมอนี่แทบตาย


ตอนนี้เขาโคตรอยากจูบใครสักคน แล้วก็ดันเผลอตัวเผลอใจให้เจ้าของความรู้สึกดี ๆ นี้ไปแล้ว


“ก็ตายไปด้วยกัน”


ชานยอลยิ้ม เหมือนวันแรกที่เขาแสร้งทักทายทั้งที่ริษยาผมเต็มหัวใจ




What you thinkin' about?
I know everything
I know it all








-----------------------------------------------------------------
กลับไปคอมเมนท์หรือติดแท็กให้กำลังใจกันบ้างนะคะ




© OHARHA
Maira Gall