เขาแลกลิ้นกับแบคฮยอนซ้ำๆ
ทั้งกัดคลึงริมฝีปากนั้นจนบวมเจ่อ แทรกกายเข้าไปตระกองกอดจนเป็นอันหนึ่งอันเดียว เขามองไม่เห็นใครอื่นบนโลกใบนี้อีกแล้ว
สองมือถอดเสื้อยืดตัวบางของร่างในอ้อมกอด
ยิ่งในตอนที่แบคฮยอนต้องยกสองแขนขึ้น เขาก็ยิ่งอยากเอี่ยวรัดร่างนั้นเข้ามาแนบแน่นขึ้นอีก
ชานยอลทำมัน และเขารู้สึกดีที่เรือนผมถูกมือของแบคฮยอนขยุ้มจนยุ่งเหยิง
“ผมคิดถึงพี่”
ชานยอลกระซิบเสียงพร่า เขาอยากพูดคำนี้ซ้ำๆก่อนจะกดจูบลงไปที่ริมฝีปากบางเฉียบ
มันไม่ได้น่ารักเหมือนรูปกระจับ แต่ชานยอลหลงรักมันตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น
เขาดึงกางเกงของแบคฮยอนออกจนร่นไปยู่ใต้สะโพก
ละเลียดกดจูบไปตามเนื้อคอ ไหปลาร้า และแผ่นอกเรียบขาว
เขาอยากจับแบคฮยอนนอนลงที่เตียงนุ่มๆ แล้วใช้เวลาสาดใส่ความคิดถึงอย่างไม่ปรานี
ชานยอลจำได้ดีว่าเขาชอบซี่โครงของแบคฮยอนที่สุด
ชอบในตอนที่มันเกร็งตัวขึ้นรับทุกสัมผัสจากเขา นิ้วของแบคฮยอนเรียวสวย และมันเอาแต่จะฉุดเขาขึ้นอย่างขลาดอายในตอนที่ปาร์คชานยอลใช้ปากให้กับสิ่ง
นั้น
“อะ…” ชานยอลได้ยินแค่เสียงที่หลุดออกมาสั้นๆ
แบคฮยอนคลึงมืออยู่ที่ศีรษะของเขา กดให้ต่ำลงบ้างก็พยายามดึงขึ้น แต่ชานยอลไมได้ทำจนเสร็จ
เขาเสียเวลาดึงกางเกงของแบคฮยอนลงจนเปลือยเปล่าแล้วพอไปที่โต๊ะกินข้าวที่ ไม่มีอะไรนอกจากแก้วน้ำ
จะปล่อยให้มันเกิดขึ้นจริงๆเหรอ?
แบคฮยอนถามตัวเองอีกครั้ง เขามีเวลาคิดระหว่างที่มองชานยอลถอดเสื้อและกางเกง
มันหยุดไม่ได้แล้ว ชานยอลบอกในตอนที่โถมตัวเข้าใส่แบคฮยอนอีกครั้งจนโต๊ะลั่นเอี๊ยด
เสียงฝนเหมือนจะดังถี่และหนักขึ้นเหมือนกับความรู้สึกในจิตใจตอนนี้
“คว่ำลงได้ไหม” ชานยอลไม่พูดเปล่า
เขาประคองร่างแบคฮยอนลงยืนบนพื้นแล้วจับให้คว่ำหน้าลงกับโต๊ะ ร่างสูงเสยผมชุ่มเหงื่อตัวเองอย่างลวกๆ
แล้วพรมจูบที่แผ่นหลังนั้นด้วยความรู้สึกรักใคร่
ในตอนที่สอดมือเข้าไประหว่างขา ชานยอลก็ได้รู้ว่าแบคฮยอนชื้นแฉะเต็มที่แล้ว
แต่ร่างเล็กครางเครือราวกับมันยังไม่สุด ชานยอลเห็นแก่ตัวที่อยากให้ทั้งูคู่เสร็จพร้อมๆกัน
“อือ…” แบคฮยอนขบกรามแน่น
นิ้วเรียวหมุนวนอยู่ภายในร่างกายอย่างใจร้อน มันทั้งแหวกอ้าและหลุบเข้าออก เขาทั้งเจ็บทั้งรู้สึกจุกเสียดไปหมด
“ชานยอล…”
ไมได้ตั้งใจเรียกชื่อนั้น ชานยอลใช้อีกมือกอบกุมข้อมือแบคฮยอนพลางท้าวไว้กับโต๊ะ
“ยกตัวขึ้นหน่อย” เสียงทุ้มกระซิบ
เขาเอามือออกมาแหวกขาแบคฮยอนเอาไว้
ชานยอลยัดมันเข้ามาในร่างกาย
ค่อยๆเคลื่อนตัวช้าๆและดันเข้าไปจนสุด นั่นทำให้อีกคนเจ็บ แต่ถึงอย่างนั้นทุกอย่างก็ค่อยๆดีขึ้นเมื่อเขาดันตัวข้ำไปเป็นครั้งที่สาม
เสียงโต๊ะไม้กระทบกับพื้นดังกึกๆ ชานยอลใช้อีกมือที่ปล่อยจากการท้าวโต๊ะมาช่วยแบคฮยอนไปด้วย
ในขณะที่มือก่อนหน้าได้แต่ประคองสะโพกมนอย่างเอาแต่ใจ
เพล้ง
เสียงแก้วน้ำที่ล้มหกและกลิ้งตกลงไปบนพื้นอาจทำให้ทั้งคู่ชะงักไปแค่
เสี้ยวหนึ่งของนาที แต่มันจะสำคัญอะไร ชานยอลยังคงขยับกายเข้าออกอย่างพึงใจในขณะที่แบคฮยอนซบหน้าลงกับเรียวแขนตัว
เองเหมือนคนร้องไห้
“อึก” บยอนแบคฮยอนไม่รู้ว่าตัวเองกำลังสะกดกลั้นอะไรอยู่
เขากำมือแน่น จนในที่สุดร่างก็คล้ายจะกระตุกเกร็งอย่างยั้งๆในช่วงท้าย แล้วทุกอย่างก็เงียบลง
ชานยอลดึงแบคฮยอนให้ยืดตัวขึ้น แล้วจึงทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นกระเบื้องเย็นเยียบ
ทั้งคู่รู้สึกชื้นแฉะ แต่ถึงอย่างนั้นร่างสูงก็กอดรัดอีกฝ่ายเอาไว้จากด้านหลัง แบคฮยอนชันสองขาขึ้นกอดตัวเองกลมและเริ่มร้องไห้อีกครั้ง
ใช่… มันเริ่มขึ้นอีกแล้ว
หม้อหุงข้าวยังคงทำหน้าที่ของมันเองอยู่อย่างนั้น
เช่นเดียวกับข้าวข้างในที่คงจะไม่สุกไปมากกว่านี้
_____________________________________________________
กลับไปที่หน้าบทความ http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1175662&chapter=2