“ที่คุณถาม”
“....”
“นี่เป็นครั้งแรก”
ไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดออกไปอย่างนั้น
หยดน้ำที่เกาะพราวอยู่บนขนตาทำให้นัยน์ตาของร่างเล็กดูหวานเชื่อม
จับจ้องยังใบหน้าหล่อที่มองเขานิ่งราวกับสติล่องลอย แต่ไม่เลย... ชานยอลกำลังคุยกับมัน...
คุยกับแรงปรารถนาที่ร่ำร้องดุดันอยู่ภายใน
ชั่วนาทีที่ปลายนิ้วตกทอดลงตามแนวแผ่นหลัง... เพียงแค่เสียงครางในลำคอสั้นๆ...
กลับทำให้ชายหนุ่มยอมแพ้ต่อแรงตัณหาอย่างง่ายดาย
รสจูบบดเบียดเข้าริมฝีปากอิ่มอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว
ปาร์คชานยอลรุกเร้าเข้าหาเขาด้วยแรงปรารถนาที่ไม่อาจหาผู้ก่อ
ดูดดุนเม้มริมฝีปากอิ่มไว้ด้วยความเป็นเจ้าของ
ลิ้นร้อนครอบครองทุกอณูดั่งนายพรานที่กำลังเสาะหาเหยื่อ มือแกร่งจมลงใต้ผิวน้ำ...
ยกสะโพกมนขึ้นกระชับมือขณะที่ขาข้างหนึ่งก้าวข้ามไปอยู่ในอ่างโดยไม่รู้ตัว
ไม่มีแม้แต่การขัดขืน...
หากแต่แบคฮยอนตอบรับ...
ตอบรับด้วยแรงพิศวาสที่เร่งเร้าวงแขนให้โอบขึ้นครองรอบคออีกคนแล้วโน้มดึงลงมาด้วยกัน
สองร่างเกลือกกลิ้งในอ่างลื่นจนเสื้อผ้าเปียกแนบเนื้อ
ท่อนขาเสียดสีกับเนื้อยีนส์แน่น ถูกันไปมาจนลืมแม้กระทั่งความหนาวเหน็บของผืนน้ำ
“อา...”
ส่วนกลางลำตัวเสียดสีกันผ่านเนื้อผ้าเฉกเช่นปลายลิ้น
ดิบเถื่อนรุ่มร้อน แทรกแซงรสสัมผัสราวกับจะไม่มีใครยอมใคร มือหยาบบีบเร้าสะโพกมน
เบียดคลึงเข้าหาร่างกายจนสิ้นแล้วซึ่งช่องว่าง กดจูบร้อนที่ลำคอขาว
ลากไซร้มาถึงไหปลาร้า คาค้างที่ยอดอกจนเสียงนุ่มหอบกระเส่าไร้ซึ่งสติยางอายใดๆ
เอื้อมถูตามสันเชิงกรานยาวถึงต้นขา ขาข้างหนึ่งของแบคฮยอนฉีกอ้า
พาดอยู่เหนือท่อนแขนล่ำสันในขณะที่ช่วงกลางลำตัวร้อนระอุ
ใบหน้าหล่อเหลาที่เด็กหนุ่มเปรียบว่าคือเดวิดซึ่งมีชีวิตกำลังลากผ่านแนวกล้ามเนื้อไล่ลงไปจนถึงท้องน้อย
จูบดุนครั้งหนึ่งแล้วเลื่อนไปหยุดอยู่ที่หว่างขา โผล่ใบหน้าขึ้นพ้นน้ำเพียงพอหายใจ
ก่อนจะก้มลงหายไปจากระดับสายตาพร้อมกับความวาบหวามที่แล่นผ่านยามบดขยี้ริมฝีปากลงจูบซ้ำที่ข้อพับ
“อ่า... ชานยอล...”
ขาเรียวชันขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะเล็กๆ
มือจับยึดขอบอ่างไว้ไม่ให้ตัวไถลลง เสียวซ่านด้วยอารมณ์สวาทเมื่อสัมผัสเข้ากับเนินแก้ม
กระทั่งเรียวปากที่ดูดดุนหว่างขาอยู่ใต้น้ำ แบคฮยอนใช้สองมือประคองใบหน้าอีกคนขึ้นก่อนที่จะขาดใจตายเพราะรสวาบหวาม
หากแต่กลับถูกรวบไว้ด้วยจุมพิตที่ปลายนิ้ว
ไล่ลากตามข้อต่อมาจนกระทั่งสันกระดูกที่ข้อมือ ลากสูงขึ้นไปเรื่อยๆด้วยกลีบปากชื้น
“ผมชอบมือคุณ”
“แต่เมื่อกี้คุณไม่ได้หยุดอยู่ตรงมือผม”
หยักยิ้มเป็นต่อจนทั้งร่างถูกทาบทับอยู่ภายใต้ผืนน้ำตื้นเขิน
ปาร์คชานยอลแนบริมฝีปากลงมารุ่มร้อน บดขยี้ราวกับจะสังหารให้ตายคาอ้อมกอด ผู้ถูกกระทำอมยิ้มรับ
ดันร่างตรงหน้าออกก่อนจะพลิกตัวอีกฝ่ายลงใต้น้ำบ้าง มือเรียวไล้ลงสู่ชายเสื้อแล้วเลิกขึ้น
มัดกล้ามที่เขาวาดมันเมื่อเย็นเด่นชัด ซ้อนทับอยู่กับผืนน้ำใส
กระทั่งร่างสูงหยัดตัวขึ้นจนใบหน้าพ้นน้ำ
โอบรัดรอบเอวอีกคนไว้แล้วลากริมฝีปากตามสันคาง
“ใครบอกกัน... ผมหยุดไม่อยู่แล้วต่างหาก”
ได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะร่า
ส่วนชูชันเสียดสีกับผืนผ้าใต้น้ำอย่างน่าเสน่หา อย่างน้อยๆคืนนี้ก็ขอให้ได้ชนะปาร์คชานยอลคนนี้บ้างไม่ได้เลยหรือไง
“เมื่อกี้ใครกันบอกว่าเป็นแค่หุ่นนิ่งมีชีวิต...”
“หุ่นนิ่งมันไม่ยอมนิ่ง”
“ก็เพราะหุ่นมันมีชีวิต... มันก็เลยอยู่นิ่งไม่ได้”
เหยียดยิ้มยั่วเย้าโทสะจนทำเอาคนได้ฟังแค่นหัวเราะพึงใจ
แบคฮยอนกำลังรู้สึกเป็นต่อราวกับว่าเขาได้เอาชนะคนๆนี้เป็นที่สำเร็จแล้ว
“ตอนนี้คุณคิดว่านาร์ซิสซัสเห็นอะไรในผืนน้ำ”
ถ้อยคำกล่าวถูกเอ่ยเอื้อนด้วยเสียงแหบพร่า
ร่างเล็กถูกกระชับร่างเข้าหาตัวจนไร้ทางโต้ ใบหน้าหล่อเหลายังคงใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนระอุ
กดสันจมูกลงแนบกับพวงแก้มขาวสูดดมความเสน่หาที่ยังคงคุกรุ่นท่ามกลางบทสนทนาชั้นเชิง
แบคฮยอนจ้องมองย้ำลงไปในผืนน้ำเพื่อมองหาคำตอบ
ใช่... ปาร์คชานยอลกำลังกล่าวว่าเขาเป็นดั่งนาร์ซิสซัสเหนือผืนน้ำ
ในยามนี้เทพบุตรหนุ่มเห็นเพียงแผงอกกำยำที่เขาเป็นคนทำให้มันปรากฏ
เห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องน่าหลงใหล
เห็นดวงหน้าหล่อเหลาที่กำลังจับจ้องด้วยแรงปรารถนา
“เห็นคุณ”
เพียงคำนั้นรสจูบเร่าร้อนก็ปะทุโหมราวกองเพลิงกลางสายน้ำเชี่ยวกราด
ดุดัน ดิบเถื่อน และเต็มไปด้วยความหยาบกร้านของกายเนื้อ
กางเกงยีนส์สีเข้มถูกถอดออกทั้งที่สองร่างยังคงนัวเนีย อยู่บนบ้างใต้บ้าง
ผลัดกันแลกรับสัมผัสตราบจนอารมณ์พุ่งสู่จุดสูงสุด
เรียวขาไขว้สวนกันราวสอดประสาน
ส่วนแข็งขืนสัมผัสปลุกเร้าอารมณ์ให้อีกฝ่ายในขณะที่ท่อนบนยังคงปรนเปรอกันอย่างไม่รู้จบ
ร่างสูงไล้ริมฝีปากลงต่ำ บีบคลำส่วนปลายความวาบหวามด้วยมือหนึ่ง
เคล้าคลึงกับเนินแก้มและเรียวปาก เพียงไม่นานนัก...
เสียงพร่าก็ครางกระเส่าสิ้นแล้วซึ่งความอัดอั้น
“แบคฮยอน...”
อมยิ้มเล็กเกิดขึ้นบนเรียวปากซุกซนระคนแปลกใจ
ตั้งแต่สนทนากันไม่มีสักครั้งที่แบคฮยอนจะเอ่ยชื่อตัวเองให้ได้ยิน
อย่างนั้นแล้วเสียงเมื่อครู่...
“ชื่อของคุณอยู่บนมุมขวาล่างของงาน” ไม่ต้องรอให้ออกปากถามชายหนุ่มก็ย้ำถึงความฉลาดด้วยการอธิบายที่มาของชื่อที่ส่งเสียงเรียกออกไป
ภาพวาดของเขาที่แบคฮยอนบรรจงลากเส้น ปาร์คชานยอลได้รับรู้ชื่อของเด็กหนุ่มร่างเล็กจากลายมือบิดเบี้ยวที่มุมขวาล่างของงาน
และเขาจำมันได้...
“อย่างนั้นคุณคงต้องเรียกผม...”
ร่างทั้งร่างถูกทาบทับคุมคามจากส่วนล่างขึ้นมาจนถึงแผ่นอก
แรงบีบรัดที่ช่วงกลางลำตัวของแบคฮยอนผ่อนลงมากหลังได้รับการปลดปล่อย
คราบสีขาวขุ่นยังลอยวนเวียนอยู่ในผืนน้ำราวกับหยดหมึก
เพียงอึดใจเสียงขบกรามเคี้ยวฟันก็ดังอยู่เหนือร่างพร้อมๆกับสัมผัสแปลกใหม่ที่แทรกเติมเข้ามา
“...สลับกับที่คุณก็ต้องเรียกผมเหมือนกัน แบคฮยอน”
ปาร์คชานยอลเริ่มขยับตัวเพียงนิดเสียงแหบพร่าก็ครางกระเส่าอย่างพึงใจ
กล้ามเนื้อแขนเกร็งแข็งจนขึ้นเป็นมัดกล้าม จับยึดสองฝั่งอ่างอาบน้ำไว้เป็นหลัก
เคลื่อนกายเข้าออกผสานกับแรงรับจากร่างข้างใต้ ทนแรงบีบที่ช่วงไหล่อยู่พักใหญ่แบคฮยอนก็ผ่อนแรงยึดลงพร้อมๆกับคราบที่แทรกซึมมวลน้ำเพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง
เกือบสองชั่วโมงที่พวกเขาใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนับตั้งแต่สร้างข้อตกลงกัน
ตอบรับแรงอารมณ์ทะยานสู่ปลายสุดของความต้องการดั่งเปลวไฟโชติช่วง
นานเหลือเกินที่ยังพากันแช่อยู่ในอ่างนั้น...
อ่างอันเป็นผืนกระดาษชั้นดีให้สองคนบรรเลงเพลงใคร่ไม่รู้จบ
หากจะมีใครกล่าวว่าเซ็กส์กับศิลปะนั้นต่างกันเพียงเส้นด้ายของความรู้สึก...
บัดนี้แบคฮยอนจะเถียงว่าไม่เลย... มันช่างอยู่ห่างไกลแรงตัณหาของสิ่งมีชีวิตมาก
เช่นเดียวกับที่เขามีให้ปาร์คชานยอลมันไม่ใช่ศิลปะ...
หากแต่เป็นความปรารถนาจากภายในนี้เอง
กลับไปอ่านต่อและคอมเมนท์ที่นี่ฮับ
http://my.dek-d.com/oharha/writer/viewlongc.php?id=1060960&chapter=5