THE FOX AND I
九尾の妖狐。
OHSEHUN l KIMJONGIN
- OHARHA -
( 18 )
CUT SCENT
เรื่องในเขตแดนของปีศาจจิ้งจอก
“กับคุณน่ะผมรอมาเกินพอแล้ว
จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ ยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดี”
ให้ตายสิ ไหนว่าทำไปก็ดูดพลังชีวิตไม่ได้
แล้วทำไมถึงยังพูดยิ่งเร็วยิ่งดีอะไรนั่นออกมาหน้าตาเฉยอีก
เขาพยายามหาเหตุผลให้การกระทำนี้ แต่สิ่งที่อยู่ในหัวกลับสะเปะสะปะ
พร่าเลือนจนแทบฟุ้งหายเมื่ออีกฝ่ายเลิกชายเสื้อฮู้ดขึ้น ทำท่าอยากบังคับถอดออกเต็มแก่
เซฮุนกดจูบลงบนกล้ามเนื้อหน้าท้องเป็นลอนสีแทน อย่างกับตอนแอบมีเซ็กส์กับแฟนคนแรกที่บ้านของหล่อนไม่มีผิด
“เอาจริงหรือวะ” จงอินกัดฟันถาม มือที่คิดจะผลักร่างปีศาจจิ้งจอกออกไปให้พ้นตัวยังคงเก้ๆ
กังๆ อยู่กลางอากาศ เอาเข้าจริงเขาไม่อยากแตะตัวเซฮุนในตอนนี้เลยด้วยซ้ำ
ไม่ว่าจะไหล่กว้างไร้อาภรณ์หรือแผ่นอกขาวซีดที่มีแต่กล้ามเนื้อ
หาใช่แตงโมเนื้อนิ่มสองลูกเหมือนอย่างโอเซฮีแล้ว
ไอ้เรื่องที่จะทำใจเผลอไผลไปแบบไม่คิดอะไรนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้เลย
เซฮุนกลอกตามองเขา ถ้าให้เดาล่ะก็คงหมดอารมณ์จนอะไรต่อมิอะไรแฟ่บไปหมดแล้วกระมัง
ผิดคาดที่โอเซฮุนทำสิ่งตรงกันข้ามกับความคิดของเขาทุกประการ
เจ้าของตาสีฟ้าวิบวาวอย่างปีศาจเลิกสนใจหน้าท้องของจงอินราวกับไม่เห็นความสำคัญแล้ว
หากมือแกร่งกลับดึงกางเกงวอร์มลงตรงหน้าขา ปล่อยให้ชั้นในสีดำบวมเป่งอยู่ตรงหน้า
จากนั้นจึงอ้าปากงับมันเบาๆ แล้วยังแกล้งขยับกลีบปากขบเม้มอีกสองครั้งจนจงอินเผลอร้องซี้ดอย่างไม่ตั้งใจ
“ไอ้จิ้งจอกบ้าเอ๊ย...”
จุดที่ปลอดภัยที่สุดในตอนนี้คือการดันหัวเซฮุนออกไปให้พ้นจากการวอแวกางเกงในเขา
สาบานได้ว่าคิมจงอินต้องการทำเช่นนั้น ไม่ใช่การขยุ้มเรือนผมสีเงินของอีกฝ่าย
ชันขาสองข้างขึ้นจนผิวเนื้อที่โผล่พ้นกางเกงเสียดกับท้องแขน ตั้งแต่เกิดมา
นอกจากในแผ่นหนังเอวีที่แบคฮยอนแบ่งมาให้ดูแล้ว เขาก็ไม่เคยมีปรสบการณ์ได้สัมผัสกับออรัลเซ็กส์ดีๆ
จากผู้หญิงคนไหนมาก่อน เจ้าหล่อนพวกนั้นไม่ค่อยชอบใช้ปาก แล้วโอเซฮุนเป็นใคร
ถึงได้มาทำให้เขาใกล้ตื่นตัวจนแทบคลั่งเพียงเพราะอยากรู้รสชาติของมันต่อจากนี้
กางเกงในผู้ชายสีดำถูกร่นลงจนบางสิ่งดีดผึงชี้หน้าปีศาจระดับสูงอย่างจิ้งจอกเก้าหาง
จงอินจงใจสบถคำหยาบ เท้าศอกลงกับฟูกเพื่อส่งตัวเองลุกขึ้นนั่ง หวังจะจบการกระทำล่อแหลมพวกนี้ลงก่อนอะไรต่อมิอะไรจะเลยเถิด
หากภาพที่เขาเห็นเป็นอย่างแรกคือส่วนกลางลำตัวของตนขยายใหญ่เต็มมืออีกฝ่าย
ก่อนจะผลุบหายเข้าไปข้างในโพรงปากอีกฝ่าย เมื่อนั้น
ใบหน้าของโอเซฮุนก็เริ่มขยับขึ้นลง ทั้งยังกลอกตามองเขาเป็นเชิงทักทายที่อุตส่าห์โผล่หน้ามาเยี่ยมถึงที่
จงอินทิ้งตัวลงนอนบนฟูกดังเดิม
สองมือยกขึ้นปิดหน้าก่อนริมฝีปากจะอ้าปากเพื่อตะโกนใส่มืออย่างอุดอู้
เสียงนั้นไม่ได้วาบหวามคล้ายคลึงฮาชิโมโตะ อารินะ นางเอกเอวีน้องใหม่
แต่ฟังดูแล้วเหมือนกับตอนที่เขากำลังครุ่นแค้นคู่อริ
หมายมั่นว่าจะต่อยมันคว่ำลงให้ได้ในวันสองวันนี้มากกว่า และใช่
คิมจงอินแค้นโอเซฮุน! แค้นจนทั้งร่างร้อนเหมือนจะระเบิด
ใบหน้าแดงก่ำลามไปจนถึงหู คำด่าที่คิดไว้มากมายก่อนหน้านี้กลายเป็นเสียงติดๆ ขัดๆ
อยู่ในลำคอ ทั้งฟันทั้งลิ้นสลับกันทำงานราวกับเป็นเครื่องจักรชั้นยอด
บำเรอจนคิมจงอินที่ทำท่ายึกยักๆ ก่อนหน้า บัดนี้ได้แต่บิดเร่าอย่างจวนตัว
ปล่อยให้เซฮุนใช้ปากตามใจชอบได้จนถึงที่สุด
มือของจิ้งจอกหนุ่มค่อยๆ ร่นกางเกงวอร์มและชั้นในจนหลุดพ้นปลายเท้า
ไม่ว่าจงอินจะรู้ตัวหรือไม่ แต่เจ้าตัวก็ช่วยอำนวยความสะดวกด้วยการปล่อยให้เซฮุนยกท่อนขาขึ้นพาดบ่า
ส่วนปากยังสร้างเสียงจ๊วบจ๊าบได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
“บ้าเอ๊ย -- เซฮุน พอ” จงอินคำรามในลำคอ
ยิ่งได้ยินเสียงเฉอะแฉะจากช่วงล่าง ดวงตาก็ยิ่งร้อนผ่าวด้วยความอับอายจนแทบทนไม่ไหว
“ขอร้องล่ะ... ฉัน...”
เขามาทำอะไรอยู่ที่นี่กันวะ
อยู่กับเจ้าปีศาจที่อันตรายที่สุดในโลกเนี่ยนะ?
ไม่ทันเสียแล้ว
ความอึดอัดทั้งหมดทั้งมวลในตัวของคิมจงอินพุ่งระเบิดเป็นน้ำสีขาวขุ่นฉีดอัดในปากอีกฝ่าย
ไหลย้อยจนหยดจากปลายคางลงบนฟูก ก่อนจะค่อยๆ ขยับขึ้นมาใกล้ บังคับจูบทายาทจากศาลเจ้าตะวันออกด้วยรสชาติเฉพาะของเจ้าตัวเอง
ทั้งระหว่างขาและใบหน้าของเขาเลอะด้วยน้ำรักนี่เต็มไปหมด
จงอินต่อยหัวไหล่อีกฝ่ายแรงๆ ปากที่เปรอะไปด้วยคราบสีขาวเหมือนกันสบถคำหยาบออกมาไม่หยุด
“แกมัน -- เวรเอ๊ย! ฉันจะต้องด่านายยังไงดี
โอเซฮุน นี่มันแรงเกินไปแล้วนะว้อย! ไม่ขนลุกเลยหรือไงกัน
ไอ้เรื่องแบบเมื่อกี้น่ะมัน…”
“มัน...?” เซฮุนเลิกคิ้ว
มือก็ขยับลงไปยังช่วงล่างที่ไม่เหลือแม้แต่ชั้นในของอีกฝ่าย
ก่อนจะเบี่ยงเข้าทางด้านหลัง แหวกแก้มก้นจงอินด้วยมือเดียวแล้วแหย่ปลายนิ้วหาจุดนั้นอย่างยั่วเย้า
คนถูกกระทำสะดุ้งจนลมหายใจกระตุกเฮือก ใบหน้าที่แดงอยู่แล้วยิ่งเห่อร้อน
คำบ่นเหยียดยาวเมื่อครู่แทบจะกลายเป็นหมันเมื่อช่องทางตรงสะโพกถูกรุกล้ำจากอีกฝ่าย
นิ้วเรียวยาวชำแรกเข้าไปจนสุด ก่อนจะเริ่มขยับอย่างเชื่องช้า “ปีศาจอย่างผม เอาจริงๆ
ก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องเพศสภาพเหมือนอย่างมนุษย์หรอกนะครับ”
“แม่งเอ๊ย...
เอาออกไป...”
“พูดอีกสิครับ
คำพูดเจ็บๆ แสบๆ พวกนั้น” ปากชื้นงับเข้าที่ใบหู
ทั้งแกล้งเป่าลม ส่งลิ้นร้อนเข้าไปหยอกล้อจนคนปากเก่งต้องครางติดขัด “ถ้าจะหยุดผม คุณต้องจริงจังกว่านี้นะ”
“อะ” เซฮุนแกล้งกระทุ้งปลายนิ้วในช่องทางอุ่นร้อน
โดนจุดพิเศษจนจงอินผวาจิกเล็บสั้นๆ ลงบนท่อนแขนที่พาดผ่านตัว จิ้งจอกหนุ่มขยับตัวลงมานอนเท้าศอกตะแคงอยู่ข้างๆ
สอดมือเข้าใต้ศีรษะแทนหมอนหนุนให้จงอินซุกหน้าหนีได้ไม่ถนัดนัก
“พูดอย่างหนักแน่นสิครับ”
เจ้าจิ้งจอกยังง่วนอยู่ข้างหู “ว่าคุณไม่ได้รู้สึกอะไรกับผม”
“ฉัน...” พอเขาเงียบไป อีกฝ่ายก็แกล้งขยับมือแรงๆ แล้วพยายามแทรกนิ้วที่สองอย่างใจเย็น
“เลิกล้อเล่นกันได้แล้ว”
“มีแต่คุณนั่นแหละที่คิดว่าผมล้อเล่น”
ฝั่งปีศาจดันหน้าองเมียวจิฝึกหัดให้หันมารับจูบ
เป็นจูบที่ทั้งหนักหน่วง ยาวนาน แต่ก็เป็นช่วงระยะสั้นๆ
ที่จงอินไม่ต้องพยายามสะกดกลั้นเสียงในลำคอของเขาเอาไว้ ยิ่งนิ้วที่แทรกอยู่ช่วงล่างเริ่มขยับถี่ขึ้น
จงอินก็ยิ่งอยากหันไปหาอีกคนอย่างถนัดถนี่ ต่างฝ่ายต่างหอบหายใจพลางแลกลิ้นด้วยอารมณ์ซึ่งปะทุขึ้นสูง
เซฮุนถอนนิ้วออกแล้วพลิกตัวขึ้นคร่อมเหนือร่างเขาอีกรอบ
จัดการถอดเสื้อฮู้ดออกจนร่างสีแทนเปลือยเปล่า จากนั้นจึงก้มลงจูบอีกครั้งอย่างโหยหา
“พลิกตัวหน่อย จงอิน”
จิ้งจอกกระซิบบอก หากเจ้าของชื่อก็ยังดื้อเงียบ ลังเลว่าควรทำตามดีหรือไม่ “ขอร้องล่ะครับ”
“ฉันไม่เข้าใจ” จงอินเอ่ย มือยกขึ้นดันบ่าของเขาให้ถอยออกเล็กน้อย “นี่น่ะ... มันดีแล้วจริงๆ หรือ ทำไมฉันกับนายถึงต้อง --”
“...”
“ฉันยอมรับไม่ได้”
คิมจงอินพูดทั้งที่สภาพของทั้งคู่ไม่ได้ดีไปกว่ากันนัก
บางทีมันอาจเป็นศักดิ์ศรีสุดท้ายในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง
ที่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องเซ็กส์ซึ่งมีฝ่ายตรงข้ามเป็นปีศาจเพศชายมาก่อน
อารมณ์ความรู้สึกและระบบความคิดของมนุษย์เป็นสิ่งซับซ้อน
แม้ว่าช่วงชีวิตที่มีจะสั้นแสนสั้น
แต่การซื่อตรงและทำความเข้าใจกับตนเองนั้นกลับกลายเป็นเรื่องยากเย็นจนน่าเหนื่อยใจ
“คุณไม่จำเป็นต้องยอมรับอะไรเลย” เซฮุนแตะหน้าผากตนเองลงบนหน้าผากอีกฝ่าย
มองลึกลงไปในตาสีเข้มที่ก้ำกึ่งว่าจะต้องการหรือผลักไสปีศาจตนนี้กันแน่ “บอกแล้วไงครับ แค่พูดมาก็พอว่าคุณไม่รู้สึกอะไรกับผม”
เป็นอีกครั้งที่จงอินควรได้เห็นตัวเองในตอนนี้
เขาที่ทั้งหน้าแดงราวเด็กแรกรุ่น อึกอักคล้ายไม่ประสีประสาต่อความรัก
พยายามคิดหาเหตุผลและคำโต้แย้งมากมายมาช่วยหาคำตอบ
เรื่องราวตั้งแต่ตอนที่ได้เจอโอเซฮีเป็นครั้งแรก รู้ว่าหล่อนคือปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง
กระทั่งถูกช่วงชิงจูบอย่างโจ่งแจ้ง รู้ซึ้งถึงความหมายของคนคนนั้น มีอีกตัวตนหนึ่งคือคิมไคเมื่อสี่ร้อยปีก่อน
ทั้งงุนงง สับสน เผลอรวมคนตรงหน้าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน
แยกแยะออกจากปีศาจทั้งหมดที่เคยเจอมา ไม่ว่าในส่วนประกอบใดของชีวิตคิมจงอินยามนี้
โอเซฮุนก็ล้วนคือส่วนหนึ่งของมันทั้งสิ้น
“อา” เขาพึมพำตอบ “ฉันก็ต้องรู้สึกอยู่แล้ว”
ความรู้สึกนี้เรียกว่าอะไร
จงอินไม่รู้หรอก รู้แค่มันมีบางอย่างข้างในนี้เท่านั้น
จิ้งจอกเก้าหางไม่ใช่ปีศาจที่ใจเย็นพอจะรอให้จงอินหาคำอธิบายกับตัวเองได้
สำหรับทายาทของศาลเจ้าฝั่งตะวันออกแล้ว แค่นี้ก็ดีเกินพอให้โอเซฮุนตัดสินใจถอยออกมาหยัดตัวคุกเข่า
ปลดฮากามะสีขาวแล้วปล่อยให้ทั้งชุดร่วงไปกองตรงช่วงเข่า แล้วจึงจับจงอินนอนพลิกคว่ำโก่งสะโพก
งับใบหูอีกรอบ จูบย้ำตรงสะบักหลัง ก่อนจะใช้นิ้วช่วยแหวกย้ำช่องทางซึ่งยังแฉะจากสิ่งที่ใช้ไปก่อนหน้า
จงอินฟุบหน้าลงกับแขน
ปากก็งับมือเอาไว้เพราะอดหวั่นต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่ได้
แล้วทำไมเขาถึงยอมให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นอย่างนี้ล่ะวะ
อยากจะโทษคำตะล่อมของเจ้าปีศาจจิ้งจอก แต่ลึกๆ ชายหนุ่มก็รู้ดีว่าความรู้สึกหนึ่งที่ถูกซุกซ่อนอยู่ข้างในใจนั้น
ได้ถูกโอเซฮุนกระตุ้นจนเบ่งบาน แผ่กิ่งก้านสาขาจนยากจะเก็บได้มิดชิดอีกแล้ว
เจ้าของผิวสีแทนคำรามในลำคอ
บางอย่างกำลังถูกเสียดยัดเข้ามาในตัวเขา เป็นสิ่งที่ทั้งใหญ่ ร้อน
และทำให้ช่วงล่างคับแน่นจนเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เขารู้จักสิ่งนั้นเป็นอย่างดี
ดีพอจะรู้ว่าเหตุใดตนเองในตอนนี้ถึงได้เจ็บปวดอย่างสุดแสน
น้ำตาที่นานครั้งจะปรากฏกลับเล็ดอยู่ตรงขอบตา ใช่
มันเจ็บจนทำให้เขาอยากร้องไห้
รู้สึกตัวเหมือนตาสว่างว่าเมื่อครู่นี้อาจเป็นมนตร์เล่นกับจิตใจของเจ้าจิ้งจอกทั้งหมด
“เจ็บ... เอาออกไป... ฉันไม่รู้สึกอะไรกับนายทั้งนั้นแหละโว้ย!” จงอินพาล ปัดป่ายมือไปด้านหลังอย่างสะเปะสะปะหวังจะโดนไอ้ตัวต้นเหตุแล้วกระชากออกให้รู้แล้วรู้รอด
“แม่ง... แขนถูกกินยังไม่เจ็บเท่านี้เลย”
เซฮุนได้แต่หัวเราะ
ทั้งเห็นใจระคนเอ็นดูที่เห็นเขาโวยวายสู้ความเจ็บปวดในครั้งแรกด้วยคำพูดคำจางี่เง่าอย่างนั้น
จิ้งจอกหนุ่มจับมือที่แกว่งไปมาของจงอินเอาไว้แล้วโน้มริมฝีปากลงไปจูบ
จากนั้นร่างกายที่เคยขยับอย่างเชื่องช้าจึงเสียดเข้าออกถี่ขึ้น ร้องได้อีกไม่กี่คำ
จงอินก็จำต้องเงียบเสียงไปเพราะคงหมดแรงแน่แล้ว
“เพราะว่าแน่น
มันถึงเจ็บน่ะสิครับ” มือสองข้างช่วยนวดบั้นท้าย เสียงเฉอะแฉะจากด้านในดังชัดขึ้น
ตามด้วยเสียงกระทบระหว่างหนั่นเนื้อสะโพกกับหน้าขา
ไม่นานนักมันก็กลับกลายเป็นเสียงจังหวะถี่ๆ
สลับไปกับเสียงครางอื้อในลำคออย่างพึงใจ “จงอิน
ดีขึ้นหรือยัง”
“ไม่โว้ -- อา!” ตอบยังไม่ทันจบคำดีก็หลุดเสียงน่าอายออกไปเสียได้ โอเซฮุนขอสาบานกับแม่น้ำซันสึเลยว่าเขาอยากเห็นสีหน้าจงอินในตอนนี้ชะมัด
แต่อีกฝ่ายก็เอาแต่คว่ำหน้าหนีลงกับฟูก ทั้งลาดไหล่สั่นเทาจนดูออกได้ยากว่าที่บอกไม่นั้นเป็นความจริงหรือไม่
ท้ายแล้วเซฮุนก็ต้องยอมแพ้
เขาดึงตัวจงอินให้ลุกขึ้นมานั่งตัก ทับลงบนสิ่งที่ยังชูชันจนอีกฝ่ายสะดุ้งจะลุกหนี
หากสองแขนกลับโอบรัดร่างจงอินเอาไว้แน่น ปล่อยให้แผ่นหลังสีแทนทาบติดกับหน้าอก
กลีบปากพรมจูบบริเวณต้นคอซ้ำๆ แล้วจึงเริ่มสวนสะโพกถี่ด้วยแรงอารมณ์อีกครั้ง เพราะแขนอยู่ใต้แรงรัดของอ้อมกอด
จงอินจึงไม่มีสิ่งใดช่วยปิดปากเขาไม่ให้หลุดเสียงใดออกไปได้
นอกเหนือเสียจากการที่ชายหนุ่มจะยอมกัดริมฝีปาก ปล่อยให้มันยิ่งบวมเจ่อขณะที่เซฮุนไซ้ใบหน้าลงบนซอกคอ
ทั้งจูบ ทั้งฟัด ทั้งกัด อย่างกับว่าไปเป็นปีศาจอดอยากมาจากไหน
“อะ...!”
“ทำไมครับ
ผมห้ามได้ยินหรือ” เจ้าจิ้งจอกถามจากทางด้านหลัง
ขยับสะโพกใส่เขาที่นั่งอยู่ด้านบนจนทั้งจุก ทั้งเสียว
และยังเจ็บปวดอยู่ในคราวเดียว เชื่อเถอะว่าถ้าจะให้คิมจงอินยอมร่ำร้องอะไรแบบนั้น
สู้ให้กัดปากตนเองจนแหว่งไปเลยเสียยังดีกว่า ทว่าพอคิดอย่างนั้น
เซฮุนก็ยิ่งแกล้งขยับเร็วและแรงขึ้น
จนในที่สุดเขาก็หลุดเสียงน่าเกลียดออกไปชุดใหญ่กว่าจะตั้งหลักได้อีกครั้ง “แย่หน่อยนะครับ จิ้งจอกก็นิสัยเสียแบบนี้แหละ”
จงอินจำต้องช่วยตนเองไปด้วยเพราะแทบทนไม่ไหว
ถึงปฏิเสธว่าไม่อย่างไร
แต่การที่เขาคงเสร็จมากกว่าหนึ่งรอบนั้นก็เป็นเรื่องที่ไม่อาจปฏิเสธได้อยู่ดี
จิ้งจอกเก้าหางปลดปล่อยสิ่งนั้นคาตัวจงอินหลังจากนั้นไม่นาน
น่าอายที่พอถูกกระทุ้งจากโคนสุดปลายใส่อีกสองสามครั้ง
ทายาทศาลเจ้าก็เสร็จตามกันเป็นรอบที่สอง เซฮุนกอดรัดร่างของจงอินเอาไว้ไม่ปล่อย
ถึงอีกฝ่ายจะเอาแต่ดิ้นขลุกขลัก
บ่นว่าอึดอัดทั้งภายนอกและภายในจนอยากหนีปีศาจเจ้าเล่ห์ไปให้พ้นจากตรงนี้เสีย
----------------------------------------------------