1/4/16

(SK) VANILLA (1)








VANILLA
OHSEHUN l KIMJONGIN
- OHARHA -






(1/2)
CUT SCENE






“เดี๋ยวเลิกเรียนก็หนีผมกลับบ้านอีก ไม่ทำตอนนี้แล้วจะให้ทำตอนไหน”


ไม่ทันขาดคำ ทั้งร่างก็เกือบไถลตกฝาส้วมเมื่อถูกคนตรงหน้ารั้งเข้าไปใกล้มากกว่าเดิม มือไม้กลายเป็นอวัยวะที่ไร้ประโยชน์ไปเสียฉิบเมื่อโอเซฮุนจัดการถอดเข็มขัดและรูดกางเกงเขาลงจนถึงหน้าขา ครั้นเมื่อหน้านั้นโน้มขยับมาลงมาใกล้ จงอินก็ต้องยกมือขึ้นดันเรือนผมสีดำขลับของมันเอาไว้ก่อนจะได้ลงมือลงปากทำอะไรที่ต้องการ


“เสื้อผ้ามึงจะไม่เปื้อนเหรอวะ”


เซฮุนยิ้ม ดึงเขาลุกขึ้นยืนแล้วทิ้งตัวเองนั่งลงไปแทนที่บนฝาชักโครก จากนั้นจึงดึงคิมจงอินที่ยืนขยุ้มหัวกางเกงและเข็มขัดให้นั่งซ้อนลงมาในท่าหันหลังชนกับแผ่นอก ปากก็บ่นเบาๆเรื่องที่ว่าทำไมต้องดึงกางเกงขึ้นมาอีกรอบ จังหวะที่อีกฝ่ายเด้งตัวบอกให้จงอินยันตัวขึ้นนิดหน่อย สะโพกก็เริ่มจะสัมผัสได้ถึงอะไรนูนๆที่ยังโตไม่เต็มที่ดีนัก หากความสนใจก็เบี่ยงไปเมื่อเซฮุนถอดกางในเขาออก และรั้งร่างให้นั่งแนบสิ่งนั้นลงไปเหมือนเดิม หนำซ้ำยังทำราวกับว่าไอ้ที่มือเอื้อมมาจับแกนกายคนในวงแขนเป็นอะไรที่โคตรธรรมดาเสียอีก


จงอินแน่ใจว่าตอนนี้ใบหน้าของเขาคงเต็มไปด้วยริ้วแดง อารมณ์คุกรุ่นแปลกประหลาดเริ่มเล่นงานเมื่อเซฮุนขยับนิ้วกดบี้ปลายส่วนนั้นอย่างหยอกเย้าก่อนจะเริ่มรูดรั้งจนคับพองเต็มมือ เอาเป็นว่าจงอินไม่ชอบตัวเองตอนนี้ มันคนละแบบกับเวลาที่เขาดูหนังโป๊แล้วช่วยตัวเองหรือเอากับผู้หญิงคนไหน กรอบสายตาจึงขยับขึ้นๆลงๆระหว่างมืออีกฝ่ายกับสีขาวเหลืองของบานประตูแทน


ลมหายใจเซฮุนเริ่มถี่ขึ้น แล้วไอ้สิ่งที่ดุนดันอยู่ใต้สะโพกก็เริ่มโตเต็มวัยจนจงอินเล็งเห็นอนาคตลางๆ เขาบังคับตัวเองให้เงียบด้วยการอ้าปากผ่อนลมออก เม็ดเหงื่อผุดพรายจนผมบริเวณขมับจับตัวเป็นก้อน พอสายตาเริ่มเบลอจนเห็นแกนแดงเถือกเป็นสองอัน น้ำเสียงทุ้มพร่าก็กระซิบข้างหูราวกับเร่งรัดเอาคำตอบ


“ใกล้จะถึงหรือยัง”


จงอินไม่แน่ใจ แต่เขาคิดว่าคงใช่จึงใช้การพยักหน้ารับแทน


ได้ยินอย่างนั้น โอเซฮุนก็ยิ่งเร่งมือของตัวเองเร็วขึ้นจนร่างกายจงอินร้อนฉ่า มันคล้ายกับมีมดคันไฟตอดยิบอยู่บนตัว ซ้ำยังกัดตรงนู้นที ตรงนี้ที ซึ่งก็ไม่ต้องรอให้มารู้ในภายหลังว่ามดพวกนั้นเขี้ยวใหญ่เหมือนหมอนี่ไม่มีผิด ทุกครั้งพอจงอินทำท่าจะหลุดร้อง ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวโดยไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะช่วงล่างหรือแรงขบกัดที่กำลังฟัดไหล่ฟัดคอเขากันแน่


“เหี้ยเอ๊ย...” จงอินสบถคำหยาบคายกดอารมณ์ปะทุสูง จนเมื่อเซฮุนบี้ปลายนิ้วถูหัวลำสีแดงเถือกครั้งล่าสุด น้ำสีขาวก็พุ่งตัวออกมาจนเปรอะทั้งมือทั้งนิ้วของมัน


เซฮุนเช็ดคราบพวกนั้นลงกับขาอ่อนเขาอย่างลวกๆ จากนั้นจึงรีบถอดกางเกงของร่างบนตักทั้งยังดึงออกจากปลายเท้าให้ด้วย จงอินถูกดันให้ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ดูอีกฝ่ายแขวนกางเกงของเขาไว้กับตะขอเกี่ยว จากนั้นก็ถูกจับโค้งเข้าหาผนังทางขวางด้วยคำสั่งกลายๆ


“หันหลัง จะได้ไม่เปื้อน”


จงอินเห็นพื้นกระเบื้องที่กำลังเหยียบอยู่อย่างชัดเจน เขาต้องอยู่ในท่าทางประหลาดนี้จนกว่าเสียงปลดเข็มขัดของเซฮุนจะเงียบลง จนเมื่อวงแขนข้างหนึ่งเลื่อนเข้ามารั้งเอวเอาไว้ ถูไถระหว่างขาด้วยน้ำสีขาวรสชาติประหลาด ไม่นานนักปลายแท่งร้อนที่บีบรัดความรู้สึกชายหนุ่มให้พุ่งสูงก็พยายามจะดันทุรังเข้ามา มันเสียดลึกขึ้นเรื่อยๆ และคิมจงอินคิดว่าตัวเองคงตายแน่แล้วหากว่าเซฮุนยังไม่ยอมขยับเสียที


“คิดว่าจะมีใครเข้าห้องน้ำมาตอนนี้ไหม” เซฮุนพูดติดตลก แต่มันโคตรไม่ขำเลยถ้าเกิดว่ามีคนอยู่อีกฝั่งของบานประตูในขณะที่เขาจำต้องกลั้นเสียงเอาไว้ แต่อีกฝ่ายไม่แม้แต่จะระวังเสียงเข็มขัดของตัวเอง


ร่างสูงทางด้านหลังสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วเซฮุนก็เริ่มขยับตัวเพื่อแทรกแกนกายเข้าไปสุดโคน ชักออกจนเกือบหลุด แล้วก็เสียบลึกเข้ามาอีกครั้งเพื่อทำให้คิมจงอินคลั่งตายอย่างคนหมดสภาพ


“อือ...”


จงอินพยายามที่จะไม่ร้อง แต่เพราะรู้ว่าทำได้ยาก เซฮุนถึงได้ส่งนิ้วมือที่มีกลิ่นเดียวกันกับช่องทางข้างใต้มาใส่ปากเขาเอาไว้เป็นการช่วยเหลือ ร่างกายสูงใหญ่เคลื่อนเข้าออกจนเกิดเสียงสวบสาบ เมื่อเร็วขึ้นกว่านั้น จงอินก็คิดว่าเสียงน้ำกระทบกันแบบนี้มันดังกว่าเสียงที่เขากลัวจะหลุดร้องออกมาเสียอีก


“แอ้ง --” เขาสบถ ทว่าเซฮุนหัวเราะเบาๆเพราะรู้ว่ามันคงเป็นคำหยาบคาย


จงอินโก่งโค้งตัวใส่อีกฝ่ายมากขึ้น ไม่ใช่เป็นเพราะเขาถวิลหาการร่วมรักที่แรงกว่านี้ แต่เพราะร่างกำลังหมดเรี่ยวหมดเรี่ยวหมดแรง ท่อนแขนที่เท้ายันกับผนังกระเบื้องเอาไว้เริ่มเลื่อนไปอยู่สูงขึ้นกว่าตำแหน่งศีรษะ นิ้วของเซฮุนกำลังจะหลุดออกจากปาก แล้วจงอินก็ต้องพยายามอุดปากตัวเองเมื่อสองมือใหญ่ของอีกฝ่ายอยากบีบสะโพกเขาแน่นๆและกระแทกตอบกับหน้าขาของตนมากกว่า


เซฮุนไม่พูดอะไรนักเวลาเราอยู่ในช่วงเวลาของความลามก ทว่าก็ยังมากกว่าคำพูดของจงอินอยู่ดี เราเริ่มทำอะไรแบบนี้ครั้งแรกเมื่อราวเกือบหนึ่งเดือนก่อน แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นเขาที่ใจง่ายหรือไอ้บ้านี่มันซ่อนเขี้ยวเล็บมิดชิดเกินไปกันแน่ เพราะรู้ตัวอีกทีเขาก็ถูกโรมรันอยู่บนเตียงของเซฮุน แถมยังเป็นตอนที่เพิ่งจะหลวมตัวยอมคบกับมันได้แค่สัปดาห์กว่าๆเท่านั้นเอง โอเซฮุนแม่งเหี้ย จงอินขอใช้คำนี้เลยเถอะ เพราะนอกจากมันจะทำให้เขากลืนไม่เข้าคายไม่ออกจนต้องยอมคบกับผู้ชายแล้ว ยังเปลี่ยนคิมจงอินให้จดจำแค่ตอนที่ตัวเองโดนเสียบเอาๆแทนที่จะเป็นคืนพิศวาสจากผู้หญิงคนไหนในอดีต


รู้สึกได้เลยว่าเซฮุนขยับตัวแรงขึ้น ในขณะที่จงอินก็ต้องช่วยตัวเองด้วยการรูดรั้งส่วนกลางลำตัวเร็วๆเหมือนกัน แม่งเอ๊ย... ไอ้ท่าที่ทำอยู่นี่มันโคตรเมื่อย อย่างน้อยถ้าเป็นเตียงนุ่มๆแล้วห่มอยู่ในผ้านวมหนาก็คงดีไม่น้อย แต่ไม่ได้หมายความว่าคิมจงอินอยากไปต่อยังเตียงในอุดมคติซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านของโอเซฮุนหรอกนะ


“อ่า...” เซฮุนครางต่ำลอดไรฟัน นั่นเป็นสัญญาณว่ามันใกล้ถึงเต็มทีแล้ว จงอินไม่แน่ใจว่าระหว่างเขากับไอ้คนข้างหลังนี่ใครจะเสร็จก่อน แล้วก็นั่นไง เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่แทบจะพร้อมกันพอดิบพอดี


ใบหน้าหล่อเหลาซบลงกับแผ่นหลัง ร่นชายเสื้อจงอินขึ้นแล้วจูบย้ำบนสะบักแช่อยู่เกือบห้าวินาที จากนั้นจึงช่วยประคองร่างที่หอบจนแทบหมดแรงให้นั่งลงบนฝาชักโครก แล้วจึงเหยียดตัวเองขึ้นเต็มความสูงเพื่อเอาเสื้อใส่ในกางเกงให้เรียบร้อย ตาก็ยังคงมองคราบน้ำขาวๆที่เปรอะอยู่ระหว่างขาเลยขึ้นจนถึงหน้าท้อง


“เพิ่งเห็นว่าในนี้ไม่มีทิชชู่” เซฮุนยิ้มขัน และแม่งโคตรรกวนประสาทเลยพอคิดว่ามันนั่นแหละที่เป็นต้นเหตุในความลำบากครั้งนี้


“ไปหามาให้กูไวๆเลย” ถึงอยากจะใส่กางเกงแค่ไหนแต่จงอินรู้ว่าคงทำไม่ได้ถ้าเขายังเละเทะอยู่แบบนี้ เซฮุนเอาแต่เอ้อระเหยลอยชาย แกล้งใส่เข็มขัดช้าๆแล้วมองคนที่เปลือยท่อนล่างทั้งสายตาหยอกล้อ “มึงแม่ง สดใส่กูอีกแล้ว”


“ผมไม่มีโรคหรอก” เซฮุนแก้ตัวให้ความอยากอันสุดวิสัยของตัวเอง


“โรคเหี้ย”


เอาเข้าจริงก็จำไม่ได้แล้วว่าทำไมถึงชอบคนๆนี้ คนที่พูดคำว่าเหี้ยได้อย่างไม่กระดากปากแถมยังต่อยตีเก่งเป็นที่หนึ่ง หลายครั้งเซฮุนคิดว่าเหงื่อจงอินจะเหม็น แต่เอาเข้าจริงแล้วเปล่าเลย ถ้าไม่ใช่หลังคาบพละหรือการวิวาท จมูกเขาก็คงจะพิลึกจนเกินไปที่รับรู้ว่าตัวจงอินเป็นกลิ่นแป้งเด็ก


“รอนี่นะ เดี๋ยวผมไปหาทิชชู่มาให้”


จงอินที่หน้าแดงแล้วก็อยากใส่กางเกงเต็มแก่ทำให้เซฮุนอมยิ้ม รู้อยู่ว่าที่โดนหลบหน้าเพราะอะไร แต่เขาไม่โกรธหรอก เพราะหากมีวันใดที่คนอย่างคิมจงอินสลัดความกระดากอายออกไปได้ เขาก็นึกภาพวันนั้นไม่ออกเลยสักนิดเดียว มันห่างไกลจากความเป็นจริงในตอนนี้เหลือเกิน


ความเป็นจริงที่ว่า โอเซฮุนหลงรักคิมจงอินคนนี้หัวปักหัวปำ






****




กลับไปอ่านต่อหน้าเว็บ






© OHARHA
Maira Gall