PS. รูปไม่เกี่ยวกับเรื่องแต่อย่างใด ...
Hate Myself
Percy l Nico l Jason
Percy Jackson Fan Fiction
- OHARHA -
Note : ไม่ไหวแล้ว 55555555555555
เขียนชาบูความเรียลของป๋าริค มโนต่อเอาจากฉากสารภาพรักในเล่มเคหาสน์แห่งฮาเดส
(จากนี้เป็นไงยังไม่รู้ ยังอ่านไม่จบ) ไม่มีสาระ สตอรี่อะไรทั้งนั้น ก็ฟินอะ
ฟินคำเดียว 5555555555555555555555555555
มีอย่างหนึ่งที่เพอร์ซีย์ แจ็คสันยังไม่รู้
แต่ก็ช่างแม่งเถอะ
เพราะเขาไม่คิดจะบอกอยู่แล้ว
นิโค
ดิแองเจโลเหยียดยิ้มบิดเบี้ยวตอนที่หยิบเสื้อยืดสีดำสกรีนคำว่าฮาล์ฟบลัดขึ้นมาจากพื้น
มันเป็นของขวัญวันเกิด (คิดว่านะ ถ้าจำไม่ผิด) ของเขาเมื่อหลายวันก่อน
แล้วก็นั่นแหละ เพอร์ซีย์
แจ็คสันรวมหัวกับผองเพื่อนสกรีนเสื้อชาวค่ายสีดำให้เขาเป็นพิเศษ
ส่วนความรู้สึกของนิโคตอนได้รับมันน่ะเหรอ
สาบานกับสติกซ์เลยว่าอย่างกับโดนประชดอยู่อย่างนั้นแหละ!
นิโคยังไม่ทันจะสวมมันเสร็จ --
หมายถึงว่ายังไม่ทันจะดึงลงมาปิดสะดือดี
มือของใครอีกคนบนเตียงก็เข้ามาเลิกมันขึ้นอีกครั้ง
เขาจำความรู้สึกได้ว่าในทาร์ทารัสมันเย็นกว่านี้หลายเท่า
แต่ตอนนี้นิโคไม่กล้าพนันว่าใต้มหาสมุทรอาจจะเย็นมากกว่า เพราะมือของคนในสภาพเปลือยเปล่าที่กำลังกดจูบเข้ากับเอวเขามันเย็นแบบนั้นเลย
“ฟ้ายังไม่สว่างเลย” บุตรแห่งโพไซดอนว่า
จะใครเสียอีกถ้าไม่ใช่ --
หยุด เว้นยักษ์ไทสันเอาไว้คน ขอร้องเลย!
ถ้าไม่ใช่ เพอร์ซีย์ แจ็คสัน
ฮีโร่สมุทรเทพในใจสาวๆหลายคน
เจ้าของผิวขาวซีดไม่แม้แต่จะสะดุ้ง หรืออันที่จริงก็คือเขารู้อยู่แล้วว่าเพอร์ซีย์กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาทางนี้
หนำซ้ำยังลากให้เขาลงไปนอนราบกับเตียงเช่นไม่กี่นาทีก่อนหน้าแล้วตวัดสองแขนมาเท้าไว้ข้างศีรษะในท่าคร่อมทับ
แต่นิโคก็แค่เงียบ เขานับหนึ่งถึงสิบในใจเพราะรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เพอร์ซีย์ก็แค่ทำตรงกันข้ามโดยการจ้องหน้าเขานานๆ
ริมฝีปากบางเฉียบเม้มแน่น
นิโคไม่ชอบถูกจับจ้องดวงตาลึกโหล
ไม่ชอบให้มือนั้นลากไล้สัมผัสเย็นอย่างน้ำทะเลไปตามหน้าท้องแบนราบ
เขาเกลียดตัวเองที่โกหก
เสียงสวบสาบของใบไม้ที่ต่างเสียดไปในทิศทางเดียวกัน
ลมเหนือทะเลสาบทำเอานิโคหนาวไปทั้งตัว
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่เขาเริ่มชินกับกลิ่นอายชื้นๆซึ่งมีอยู่ทุกส่วนในบ้านนี้ แน่นอนว่าบ้านพักริมน้ำย่อมต่างจากบ้านฮาเดสที่เขาเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวแน่นอน
แต่ถึงอย่างไร
นิโคก็คิดว่าเขาไม่เหมาะกับค่ายที่เต็มไปด้วยการสังสรรค์แห่งนี้อยู่ดี
“ทำไมไม่ตอบล่ะ” เพอร์ซีย์หยอก
เป็นอีกครั้งที่นิโคชักจะเกลียดความทะเล้นเกินพอดีของหมอนี่
“ฉันไม่เห็นว่าจะมีประโยคคำถาม”
“ไม่อยากอยู่ด้วยกันแล้วเหรอ”
คนถูกย้อนจัดให้ทันที แล้วนิโคก็เม้มปากแน่นกว่าเดิม
“เหลือเวลาอีกตั้งหลายชั่วโมง”
ถ้านับจริงๆก็คงอีกแค่ไม่เกินสี่ชั่วโมงเท่านั้น
ตอนแปดโมงเช้า แอนนาเบ็ธจะมาตะโกนเรียกเพอร์ซีย์ที่นี่ พูดคุยและอาจจะจูบอย่างที่คนรักทั่วไปทำกัน
นิโครู้ดีว่าเมื่อไรที่ฟ้าสว่าง เขาก็จะไร้ที่ยืนเสมอ
นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลเล็กๆที่น่าหักห้ามใจทุกครั้งเวลาถูกพาเข้ามาในบ้านโพไซดอนแห่งนี้
เพราะขนาดว่าเพอร์ซีย์ไม่รู้จุดบอดในความรู้สึกของเขา
บุตรแห่งนรกยังถูกเล่นสนุกจนบิดเบี้ยวไปทั้งใจอย่างนี้เลย
เพอร์ซีย์ลากลิ้นชุ่มผ่านหน้าท้อง
ใช้มือแกะเข็มขัดบนเอวกางเกงหลวมโครกออกอีกครั้ง
จากนั้นจึงเลิกเสื้อยืดสีดำขึ้นกองไว้ช่วงเหนืออก ทั้งหมดทั้งมวลนี้ นิโคเดาว่าคงไม่ต้องใช้ความรู้สึกลึกซึ้งอะไรมากมาย
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ถูกฝังลึกเกินกว่าที่นิโคจะหยิบยกขึ้นมาให้สับสนพร่ำเพรื่อ
ระหว่างถูกปรนเปรอด้วยความแปร่งปร่า เด็กหนุ่มเอาแต่จ้องมองดาบสไตเจียนบนโต๊ะ
ยาวไปจนถึงเปลือกหอยและรูปถ่ายนางแจ็คสันบนผนัง เพอร์ซีย์ให้ความรู้สึกเหมือนโรงแรมโลตัส
เพราะเผลออีกที
ความรู้สึกจุกเสียดก็แล่นเข้าร่างกายเขาจนหลุดเสียงครางแผ่วออกมาเสียแล้ว
นิ้วเรียวยาวถอนออก
จากนั้นจึงเป็นร่างกายโปร่งสูงที่ขยับเข้ามาทาบทับ ส่งส่วนหนึ่งแทรกสู่นิโค
ดิแองจิโลที่จำต้องยกมือขึ้นเกาะลาดไหล่กว้างนั้น
นิโคพยายามหลบตาเพอร์ซีย์ยามตัวถูกดันเข้าออกกับหัวเตียง แต่เขาคงแสดงออกมากเกินไป
มือใหญ่กว่าถึงได้จับเอามือขาวซีดของคนตัวเล็กกว่าให้ทาบอยู่บนใบหน้า
ราวกับอยากให้ตัวเองเป็นความสนใจเพียงหนึ่งเดียว
เพอร์ซีย์ไม่รู้ว่าตัวเองทำสำเร็จมาตลอด
‘ฉันเกลียดตัวเอง --
ที่เกลียดเพอร์ซีย์ แจ็คสัน’
คำสารภาพเมื่อปีก่อนย้อนเข้ามาเล่นงานนิโคอีกครั้ง
ป่านนี้
คิวปิดคงกำลังหัวเราะพออกพอใจเหลือเกินแล้วที่บุตรแห่งฮาเดสยอมพ่ายต่อความรักในที่สุด
เช่นเดียวกับครั้งแรกที่นิโคพ่ายต่อเพอร์ซีย์
เสียงทุ้มต่ำนั้นก็ดังแว่วอยู่ในหัวจนเรียกริ้วสีแดงจัดให้ปรากฏบนใบหน้า
‘บิดาของเจ้าก็เคยพ่ายแพ้ให้ความรักอย่างนี้
รักช่างยิ่งใหญ่!’ --
จากใจคนเดียวที่ยิ้มออกตอนเพอร์ซีโฟร์เน่ถูกขโมย
“อะ...!” นิโคผวากอดคนด้านบน
แต่ก็ประเมินไม่ได้ว่าการเสียศูนย์อย่างนี้กับจ้องหน้ากันอย่างเมื่อครู่
อะไรที่แย่ไปกว่ากัน
“อย่าเกร็ง” เพอร์ซีย์กระซิบ
แต่คงไม่สนใจว่าเขาจะได้ยินหรือไม่ เพราะทันทีที่จบประโยค
ร่างผอมเล็กของนิโคก็ถูกยกขึ้นเล็กน้อยและถลาไปอยู่ในท่านั่งบนตัวอีกฝ่าย
เพอร์ซีย์เด้งตัวสวนขึ้นเพื่อบอกทางอ้อมว่าอยากให้นิโคทำอย่างไร
“ฉันไม่...” นิโคทำสีหน้าเคียดแค้น แต่เพราะเขาไม่มีดาบสไตเจียนอยู่ในมือ
คนมองถึงได้แค่หัวเราะเบาๆโดยไร้ซึ่งความเกรงกลัว
บุตรแห่งความตายน่ากลัวน้อยกว่าไททันเสียอีก
และเพอร์ซีย์ก็ไม่ค่อยแสดงออกว่ากลัวอะไรเสียด้วย “ไม่แน่นอน”
เพอร์ซีย์หยุดขยับตัวจนแน่นิ่ง “ไม่แน่เหรอ?
เอาอย่างนั้นเหรอ นิโค”
“....”
มือนั้นบีบขยำสะโพกขาว
ทั้งเค้นคลึงช้าๆด้วยความใจเย็นราวกับรอได้เพื่อให้เขาตัดสินใจอีกที
ซึ่งตลกดีที่นิโคเคยทนถูกขังอยู่ในไหได้ทั้งนานสองนาน
แต่กับเรื่องแค่นี้ดันทนไม่ได้
คนตัวผอมเริ่มขยับตัวตามที่ถูกสั่งกลายๆ
เชื่องช้าด้วยความขลาดอาย แล้วจึงเร็วขึ้นเมื่อเพอร์ซีย์ช่วยเร่งมันด้วยการกระทำที่หยุดไปแล้วก่อนหน้า
ทั้งยังไม่ปล่อยให้นิโคเข้าไปกอดง่ายๆโดยการจับรั้งช่วงเอวเอาไว้
พลางมองใบหน้าแดงฝาดอย่างเพลิดเพลิน
“ฉัน --”
นิโคเกือบหลุดปากออกไปแล้ว
เขาคิดว่าการไร้สตินี่ช่างเป็นเรื่องน่ากลัวเสียจริง
“หืม?”
“ไม่มีอะไร”
เพอร์ซีย์ไม่ถามต่อ
ผลักนิโคให้ทิ้งตัวลงไปนอนราบเป็นแนวขวางตามแนวปลายเตียง
ทั้งยังล็อกขาข้างหนึ่งขึ้นกับวงแขนเพื่อให้ระหว่างขาอ้ากว้างขึ้น
กว้างพอที่เขาจะแทรกตัวเองเข้าไปได้จนสุดโคน ส่วนนิโคทำแค่กัดริมฝีปากเอาไว้
ทว่าเพอร์ซีย์ก็ยิ้มออกมาได้เพราะเสียงอึก อือในลำคอนั้น
“ไม่ต้องกลั้นหรอก” เขาบอก “ฉันจะแกล้งไม่ได้ยิน”
“ฉันเกลียดนาย”
นิโคบอกออกไปอย่างนั้น เพอร์ซีย์ก็แค่นิ่งไป
แต่เขายังยิ้มไม่หุบ “ฉันรู้”
“ไง”
นิโค ดิแองเจโลแน่ใจว่าทางเดินกลับสู่บ้านฮาเดส
เขาไม่จำเป็นต้องผ่านบ้านบุตรแห่งซุสแน่นอน แล้วทำไม เจสัน เกรซ
ถึงได้มายืนอยู่ตรงหน้าได้
เด็กหนุ่มแสร้งมองซ้ายขวาทั้งที่รู้ว่าคงไม่มีใครอยู่แถวนี้และในเวลานี้
แต่ก็นั่นแหละ เวลาที่คนจริงจังอย่างนายเจสันมายืนทำหน้ากะลิ้มกะเหลี่ย
มันก็ชวนให้รู้สึกแปลกๆทุกที
“ฉันนึกว่านายจะกลับค่ายจูปิเตอร์ไปแล้ว”
“ไม่เห็นต้องรีบไล่กันเลย
ยังไงไพเพอร์ก็ยังอยู่นี่ แล้วฉันก็มีบ้านเป็นของตัวเองด้วย”
เจสันตอบด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนัก
ผละสองมือที่กอดอกลงมาล้วงกระเป๋ากางเกงพลางสาวเท้าเข้ามาใกล้
นิโคเกลียดทุกทีที่เขานึกขึ้นได้ว่านอกจากคิวปิดแล้ว
ยังมีเจสันเป็นผู้กุมความลับสุดยอดเอาไว้อีกหนึ่ง
“ฉันจะไปพักผ่อน” นิโคทำท่าจะเดินสวนไป
แต่กลับโดนลมตีปะทะหน้าอย่างแรง
บางทีเจสันอาจจะแค่ช่วยหาข้ออ้างสำหรับริ้วแดงก่ำบนใบหน้าเขาก็เป็นได้ “ถอยไป
เจสัน เกรซ”
เขาไม่อยากจะเลื่อนมือไปกำดาบสไตเจียนเอาไว้เลย
แต่นิโคชอบเวลาที่เจสันน่าโมโหน้อยกว่านี้มาก หากพอเขาจริงจังขึ้น
เจสันก็ทำสีหน้าแบบเดียวกัน
รอยแผลเป็นเล็กๆตรงปากขับให้เจ้าของเรือนผมสีทองหล่อเหลาอย่างที่ใครหลายคนว่าอย่างน่าประหลาด
“นายรู้ว่าฉันมีธุระกับนาย”
นิโคขมวดคิ้ว ใช่ เขารู้
เพราะคงไม่มีใครมายืนลับๆล่อๆอยู่ด้านนอกที่พักตอนเช้ามืดหรอก
แต่นิโคก็มีเหตุผลที่จะไม่คุย เพราะเจสันรู้ว่าเขาเพิ่งออกมาจากบ้านโพไซดอน!
เจสันเการอยแผลเป็นที่นิโคเพิ่งจะมองผ่านไปอย่างประหม่า
สีหน้าจริงจังนั้นผ่อนคลายกว่าตอนสู้กับพวกอสุรกายนิดหน่อย (แบบว่าถ้าพูดให้ถูก
มันคนละอารมณ์กันเลย) แต่ก็นั่นแหละ บุตรแห่งซุ –
จูปิเตอร์จะมามีธุระอะไรกับเขากัน
“เฮเซลฝากให้ฉันมาบอกนายว่ากรุงโรมใหม่ซ่อมแซมเสร็จแล้ว”
คิ้วสีดำของนิโคยิ่งขมวดเข้าหากันกว่าเก่า
จริงอยู่ที่เขาติดต่อยาก แต่ไม่น่าจะยากสำหรับเฮเซล และเหล่าเทพเจ้า!
นี่มันสำคัญขนาดที่ต้องดักคุยกันตอนฟ้ายังไม่สางหรือไง
“อยากจะชวนไปเที่ยวน่ะ”
“อาฮะ แต่ขอบาย”
“ไม่อยากให้นายปฏิเสธเลย...
ในฐานะผู้เก็บความลับน่ะนะ”
เจสันต้องยั่วโมโหเขาอยู่แน่ๆ
แล้วถ้าเดินเข้ามาใกล้กว่านี้อีกนิด --
นิโคคิดว่าตาลึกโหลของเขาก็ไม่ได้ดูดีอะไรมากมายอยู่แล้ว
แต่มันจะต้องยิ่งแย่แน่ๆในตอนที่ลืมโพลงเพราะโดนคนตรงหน้าจูบเข้าให้ โอ้
มันคือจูบ จูบแบบที่เขาพยายามจะบรรยายมันให้เป็นเรื่องปกติธรรมดา
แต่ก็พังหมดเพราะนี่คือเจสัน! เจสัน เกรซ!
“ทำบ้าอะ --” นิโคทำท่าจะร้องโวย
แต่มือใหญ่กลับแปะเข้าที่ครึ่งหน้าล่างเขาเสียก่อน เจสันก้มลงมากระซิบข้างใบหู
ด้วยน้ำเสียงที่ไม่รู้ว่าบ่งบอกอารมณ์ใดกันแน่
“ชวนเพอร์ซีย์ไปด้วยสิ”
แล้วร่างของนิโคก็ถูกเบี่ยงให้หันกลับไปยังทางที่เพิ่งเดินมา
เพอร์ซีย์ แจ็คสันในชุดเสื้อยืดสีเทาและกางเกงวอร์มขายาวยืนอยู่ตรงนั้น
ใบหน้าเรียบตึงอย่างกับว่านั่นเป็นเพอร์ซีย์ตัวปลอมที่ถูกแปลงกายจากอสรุกายง่อยๆสักตัวอย่างไรอย่างนั้น
“เขาจะต้องไม่ปฏิเสธแน่” เจสันพูดอยู่ด้านหลัง
นิโคพยายามจะเรียบเรียงสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เขาทำไม่สำเร็จ
เพอร์ซีย์เดินเข้ามา และเจสันก็ไม่ได้ถอยไป